Slider
ดูหนังเอเชีย

Top 10 กล้อง Canon ราคาไม่เกิน 15,000 ถ่ายงานก็ได้ ถ่ายเล่นก็สวย

10-กล้อง-Canon-ราคาไม่เกิน-15,000-บาทที่น่าสนใจ

หนึ่งในแบรนด์กล้องชั้นนำที่ชาว Priceza หลายคนชื่นชอบคงจะต้องยกให้เป็นของ Canon เพราะนอกจากความเก่าแก่ของแบรนด์แล้ว เรื่องของคุณภาพไฟล์ เรื่องอุปกรณ์เสริมที่หาง่าย บริการหลังการขาย รวมไปถึงเรื่องราคาที่เอื้อมถึงได้ของกล้องยี่ห้อนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าไว้วางใจได้เสมออีกด้วย โดยเฉพาะ กล้อง Canon ราคาไม่เกิน 15,000 บาท

กล้อง Canon ราคาไม่เกิน 15000 บาท

สำหรับช่างภาพมือใหม่ที่กำลังมองหากล้องคุณภาพดีๆ ที่พกพาไปถ่ายรูปได้สบาย ๆ เราก็คัดมาให้ตัดสินใจกันทั้งหมด 10 รุ่น ซึ่งต้องบอกเลยว่าจะถ่ายเล่น ๆ หรือถ่ายเป็นงานก็เอาอยู่ทำได้แน่นอน

กล้อง Canon ราคาไม่เกิน 15,000 บาท ประเภท DSLR

1. Canon EOS 1300D

ราคากล้อง-Canon-EOS-1300D

สำหรับรุ่นนี้เป็น DSLR เช่นเดียวกัน มาพร้อมกับความละอียด 18 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกัน โดยเซนเซอร์ที่ใช้ก็เป็น APSC-C และมาพร้อมกับชิปประมวลผลภาพแบบ Digic 4+ ทำให้ได้ไฟล์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม เหมาะกับการถ่ายงานได้สบาย ๆ ราคาดีที่สุดพร้อมเลนส์ KIT ของกล้องรุ่นนี้อยู่ที่ 7,xxx บาท

2. Canon EOS 4000D

ราคากล้อง-Canon-EOS-4000D

กล้อง DSLR ที่เหมาะกับมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง เพราะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่าย และสามารถถ่ายได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือ น้ำเบาและไม่ใหญ่เกินไป สายเที่ยวก็พกพาได้ง่าย ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมเซนเซอร์แบบ APS-C ความละเอียด 18.1 ล้านพิกเซล และมีระบบ Auto Focus มาถึง 9 จุดด้วยกัน Canon EOS 4000D ราคาดีที่สุดจะอยู่ที่ 9,xxx บาท

3. Canon EOS 3000D

ราคากล้อง-Canon-EOS-3000D

กล้อง DSLR ที่มาพร้อมกริปจับที่ช่วยให้ถือกล้องได้อย่างมั่นคง รุ่นนี้มีการใช้เซนเซอร์ CMOS แบบ APS-C โดยความละเอียดอยู่ที่ 18 ล้านพิกเซล พร้อมกับการใช้ชิปประมวลผลแบบ DIGIC 4+ ทำให้ใช้เวลาได้รวดเร๋วมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีน้ำหนักที่เบากว่า DSLR รุ่นอื่นๆ เพราะน้ำหนักเพียงแค่ 436 กรัม เท่านั้น ช่างภาพที่อยากได้กล้องไว้ถ่ายทำงาน และพกพาไปเที่ยวรุ่นนี้ตอบโจทย์มากทีเดียว แถมราคาดีที่สุดก็อยู่ที่ 13,xxx บาท

กล้อง Canon ราคาไม่เกิน 15,000 บาท ประเภทคอมแพ็ค Compact

4. Canon IXUS 190

ราคากล้อง-Canon-IXUS-190

กล้อง Compact ที่ทำมาเพื่อเอาใจคนชอบเที่ยวโดยเฉพาะ สำหรับกล้องรุ่นนี้ใช้งานง่าย เหมาะกับการถ่ายภาพที่เน้นความรวดเร็วในการถ่าย โดยกล้องจะคำนวณค่าต่างๆ ให้ ผู้ใช้เพียงแค่กดถ่ายเท่านั้น ซึ่งความละเอียดของกล้องรุ่นนี้อยู่ที่ 20 ล้านพิกเซล สำหรับฟังก์ชั่นที่น่าสนใจของกล้องรุ่นนี้ก็คือ ระบบกันสั่นที่ไว้วางใจได้ในทุก ๆ จังหวะการถ่ายแม้จะเคลื่อนไหวก็ตาม โดยมีราคาดีที่สุดที่ประมาณ 4,xxx บาท เท่านั้น

5. Canon PowerShot SX430 IS

ราคากล้อง-Canon-PowerShot-SX430-IS

กล้อง Compact ราคาสบายกระเป๋า รุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียด 20.5 ล้านพิกเซล โดยใช้เซนเซอร์ CMOS ขนาด 1 / 2.3 นิ้ว โดยจุดเด่นของกล้องรุ่นนี้ก็คือ เลนส์ซูมออพติคอล 45x หรือเทียบเท่ากับเลนส์ 35 มม. ที่ 24-1080 มม. เลยทีเดียว เป็นรุ่นทที่เหมาะกับการใช้งานในการท่องเที่ยว หรือถ่ายเล่นสนุก ๆ ได้ดี ราคาดีที่สุดอยู่ที่ 6,xxx บาท

6. Canon PowerShot SX740 HS

ราคากล้อง-Canon-PowerShot-SX740-HS

อีกหนึ่งรุ่นของกล้อง Compact ที่ควรค่าต่อการพกติดตัวไปทุกๆ ทริป ซึ่งรุ่นนี้มีการใช้เซนเซอร์แบบ 1 /2.3 นิ้ว เช่นเดียวกัน มีความละเอียดที่ 20.3 ล้านพิกเซล แถมยังมาพร้อมกับระบบซูมแบบออปติคอลได้ถึง 40 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นรุ่นนี้ก็ยังมีความสามารถในการถ่ายวีดิโอที่ให้ความละเอียดระดับ 4K อีกด้วย ราคาดีที่สุดจะอยู่ที่ 10,xxx บาท

7. Canon IXUS 285 HS

ราคากล้อง-Canon-IXUS-285-HS

กล้องรุ่นนี้จัดว่าเป็นรุ่นท็อปของตระกูล IXUS จาก Canon เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นกล้องคอมแพคที่มาพร้อมกับสเปคเยี่ยม เริ่มจากการใช้เซนเซอร์ CMOS ที่มีความละเอียดสูงถึง 20.2 ล้านพิกเซล และยังมีเทคโลยีอย่าง Zoomplus ที่ช่วยขยายกำลังซูมให้มากถึง 24 เท่าเลยทีเดียว นอกจากถ่ายง่ายและถ่ายสวยแล้ว กล้องรุ่นนี้ก็ยังมีระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ NFC ให้ถ่ายโอนไฟล์ภาพได้ง่ายและรวดเร็วอีกด้วย สำหรับราคาดีที่สุดจะอยู่ที่ 6,7xx บาท เท่านั้น

8. Canon PowerShot G9X

ราคากล้อง-Canon-PowerShot-G9X

กล้องคอมแพคที่จัดว่าเป็นระดับพรีเมียมที่สุดของ Canon โดยรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซล และประมวลผลด้วยระบบ DIGIC 7 ซึ่ง G9X ก็เป็นกล้องที่ช่วยให้การพกพากล้องถ่ายรูปไปเที่ยวนั้นง่ายยิ่งขึ้น เพราะขนาดที่เล็กกระทัดรัดแบบใส่กระเป๋ากางเกงยังได้เลย แถมยังมีน้ำเบามากเพียง 206 กรัมเท่านั้น ราคาอาจจะเกินหมื่น 5 มานิดหน่อย แต่ในช่วยจัดโปรนี่เหลือไม่ถึง 15,000 จริง ๆ ซึ่งตอนนี้หมดไปแล้ว ต้องติดตามเรื่อย ๆ

กล้อง Canon ราคาไม่เกิน 15,000 บาท ประเภท Mirrorless

9. Canon EOS M100

ราคากล้อง-Canon-EOS-M100

กล้อง Mirrorless ที่แคนนอนได้จัดเต็มในเรื่องของสเปค ซึ่งแม้ว่าจะมีสเปคเทียบเท่ากับ DSLR อีกหลายๆ รุ่น แต่ในเรื่องของราคานั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เกินงบ 15k โดยรุ่นนี้ใช้เซ็นเซอร์แบบ APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล และมีระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็วอีกด้วย สามารถพับขอมาเซลฟี่ได้ ราคากล้อง Canon EOS M100 มือหนึ่งจะอยู่ที่ 11,xxx บาท และถ้าเลือกซื้อพร้อมเลนส์ Lens 22 mm จะอยู่ที่ 16,xxx บาท

10. Canon EOS M6

ราคากล้อง-Canon-EOS-M6

ปิดท้ายกันที่กล้องมิลเลอร์เลสคุณภาพสูง ซึ่งตอนนี้ก็มีการจัดโปรโมชั่นให้สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษ ประมาณ 12,xxx บาท โดยราคานี้เป็นราคาเฉพาะบอดี้ยังไม่รวมเลนส์ ซึ่งเหมาะกับเพื่อน ๆ ที่มีกล้องหรือเลนส์ Canon อยู่แล้ว หรือใครจะหาเลนส์มือสองที่ราคาไม่สูงก็ช่วยให้อยู่ในงบได้เหมือนกัน ซึ่งความพิเศษของกล้องรุ่นนี้ก็คือ ความละเอียดที่เรียกได้ว่าคมชัดมากๆ เพราะอยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันการสั่นไหว และมีการใช้เซนเซอร์ CMOS APS-C พร้อมชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดอย่าง DIGIC 7 ทำให้ได้ภาพรวดเร็วและถ่ายต่อเนื่องได้อย่างสนุก

ทั้ง 10 รุ่นนี้ก็คือ กล้อง Canon ราคาไม่เกิน 15,000 บาท ที่สามารถใช้ถ่ายเล่นในการออกทริปท่องเที่ยวก็ได้ หรือจะเลือกรุ่นที่เน้นไปในการถ่ายจริงจังเพื่อทำงานก็มีให้เลือกเช่นเดียวกัน ชอบรุ่นไหนลองไปหาลองเล่นได้ตามร้านขายกล้องชั้นนำทั่วไป หรือถ้าถูกใจแล้วก็ลองเช็คราคาล่าสุดบน Priceza กันก่อนก็ได้ บอกเลยว่าไม่แน่ซื้อออนไลน์อาจได้ราคาที่ดีกว่าจ้า

เลนส์กล้องมีกี่ประเภท ? สิ่งสำคัญที่ช่างภาพมือใหม่ควรรู้

เลนส์กล้อง

ชวนช่างภาพมือใหม่มาไขข้อข้องใจว่า จริง ๆ แล้ว เลนส์กล้องมีกี่ประเภท แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้ถ่ายภาพแบบไหน

เชื่อเลยว่าช่างภาพมือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะสับสนไม่น้อย เมื่อถึงเวลาที่ต้องการหาเลนส์ใหม่ ๆ มาใช้ เพราะอยากได้ภาพถ่ายที่มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งพอถึงเวลาต้องเลือกเลนส์จริง ๆ กลับไม่รู้เลนส์แบบไหนเหมาะกับสไตล์การถ่ายภาพของตัวเอง รวมถึงกล้องที่มีอยู่ด้วย ดังนั้นเราเลยนำเรื่องประเภทของเลนส์มาฝากกันครับ

เลนส์กล้องแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

เลนส์กล้อง

1. เลนส์ไพร์ม (Prime Lens) คือเลนส์ที่มีระยะโฟกัสตายตัวแค่ช่วงเดียวเท่านั้น แต่จะให้ภาพที่คมชัด มีให้เลือกตั้งแต่ระยะไวด์ไปถึงเทเล เช่น 24 มม., 85 มม., และ 100 มม. เป็นต้น ซึ่งมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ช่วยให้พกพาสะดวก เพราะมีจำนวนชิ้นเลนส์น้อย

เลนส์กล้อง

2. เลนส์ซูม (Zoom Lens) เป็นเลนส์ที่สามารถปรับระยะซูมได้หลายช่วงในเลนส์เดียว เช่น 16-35 มม. และ 70-300 มม. ภายในเลนส์ประกอบด้วยชิ้นเลนส์หลายชิ้น เพื่อประสิทธิภาพในการซูม ส่งผลให้ตัวเลนส์มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ

เลนส์กล้องแบ่งตามระยะโฟกัส

เลนส์กล้อง
เลนส์กล้อง

1. เลนส์มาตรฐาน (Normal Lens) คือเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสในระยะปกติ ให้ภาพถ่ายที่มีระยะพอดีกับการมองด้วยตาเปล่า โดยเลนส์มาตรฐานจะมาพร้อมกับระยะโฟกัส 50 มม. จึงเป็นเลนส์ที่เหมาะสำหรับใช้ถ่ายภาพทั่วไป หรือจะเรียกอีกอย่างว่าเลนส์ฟิกซ์ 50 ก็ได้เช่นกัน

เลนส์กล้อง
เลนส์กล้อง

2. เลนส์เทเลโฟโต (Telephoto Lens) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าเลนส์เทเล เป็นเลนส์มุมแคบที่เหมาะกับใช้ในการเก็บภาพระยะไกล เพราะสามารถซูมเข้าหาวัตถุได้ โดยเลนส์ประเภทนี้มีให้เลือกหลายระยะ เช่น 55-300 มม., 70-300 มม., 80-200 มม., และ 200-400 มม. เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ ยังใช้สำหรับการถ่ายภาพพอร์เทรตด้วย เพราะสร้างเอฟเฟกต์หน้าชัดหลังเบลอได้นั่นเอง

เลนส์กล้อง
เลนส์กล้อง

3. เลนส์ไวด์ (Wide Angle Lens) คือเลนส์มุมกว้างที่นิยมใช้ในการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ เพราะเก็บรายละเอียดภาพได้ครบถ้วน โดยมีระยะโฟกัสให้เลือกหลายช่วงเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น 10-24 มม., 11-16 มม., และ 18-35 มม. ไม่เพียงเท่านี้ เลนส์ไวด์ยังเป็นเลนส์ที่เหมาะกับการใช้ถ่ายภาพคอนเสิร์ตหรืออีเว้นต์ต่าง ๆ ด้วย เนื่องจากเก็บภาพได้ครอบคลุม แต่ก็มีข้อเสียอยู่ที่ความเพี้ยนของภาพ ซึ่งเกิดจากขอบภาพที่โค้งกว่าเลนส์แบบอื่น

เลนส์กล้อง
เลนส์กล้อง

4. เลนส์ฟิชอาย (Fisheye Lens) ลักษณะที่สังเกตได้ชัดของเลนส์ประเภทนี้คือ หน้าเลนส์จะกลมและนูนคล้ายตาปลา สามารถเก็บภาพในมุมกว้างสุดถึง 180 องศาเลยทีเดียว ซึ่งให้ภาพที่ดูแปลกตา พร้อมกับมีระยะโฟกัสให้เลือกทั้งแบบเดี่ยวและซูม เช่น 4.5 มม., 8 มม., และ 10-17 มม.

เลนส์กล้อง
เลนส์กล้อง

5. เลนส์มาโคร (Macro Lens) เป็นเลนส์ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุหรือแมลงที่มีขนาดเล็ก รวมถึงดอกไม้ด้วย ซึ่งทำให้เห็นรายละเอียดของสิ่งนั้นได้อย่างชัดเจน โดยมีระยะให้เลือก เช่น 65 มม., 90 มม., และ 105 มม. เป็นต้น

เลนส์กล้อง
เลนส์กล้อง

6. เลนส์ฟิกซ์ (Fixed Lens) คือเลนส์ที่มีระยะโฟกัสแค่ช่วงเดียว ไม่สามารถซูมเข้า-ออกได้ แต่มีจุดเด่นอยู่ที่รูรับแสง ซึ่งมีขนาดกว้างกว่าเลนส์แบบอื่นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ f/2.8 หรือ f/3.5 ขึ้นไป แต่เลนส์ฟิกซ์จะเริ่มที่ f/1.4 หรือ f/1.8 โดยเลนส์บางรุ่นมีรูรับแสงกว้างถึง f/0.95 เลยทีเดียว โดยมีระยะโฟกัสยอดฮิต เช่น 35 มม., 50 มม., และ 85 มม.

เมื่อได้ทราบอย่างนี้แล้ว ใครที่กำลังมองหาเลนส์กล้องตัวใหม่อยู่ละก็ ลองทำความเข้าใจการใช้งานเบื้องต้นของเลนส์แต่ละประเภทกันก่อนดีกว่า เพราะเลนส์กล้องมีราคาค่อนข้างแพงนั่นเอง ที่สำคัญ เพื่อที่สุดท้ายแล้วคุณจะได้เลนส์กล้องที่ตรงตามความต้องการมากที่สุดยังไงล่ะครับ

เลนส์กล้องมีกี่ประเภท ? สิ่งสำคัญที่ช่างภาพมือใหม่ควรรู้

ความรู้เรื่องกล้อง ประเภทกล้อง

ชนิดกล้องดิจิทัล

1.กล้องคอมแพ็ค

กล้องคอมแพ็คดิจิตอลเป็นกล้องดิจิตอลที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย เพียงศึกษาวิธีใช้งานเพียงเล็กน้อยก็สามารถใช้งานได้ โดยหลักการแล้วกล้องคอมแพ็คดิจิตอลมีหลักการทำงานเหมือนกับกล้องคอมแพ็คที่ใช้ฟิล์มถ่ายภาพ ในปัจจุบันเป็นกล้องที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากใช้งานง่ายและราคาไม่แพงมากนัก กล้องคอมแพ็คดิจิตอลในปัจจุบันได้มีการพัฒนาและออกแบบให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้สะดวก เช่น ระบบการซูมภาพ ระบบการวัดแสงอัตโนมัติ ระบบการบันทึกภาพเคลื่อนไหว

2. กล้องดิจิตอลชนิดสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว (DSLR – Digital Single Lens Reflex)

กล้องดิจิตอลชนิดสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว เป็นกล้องถ่ายภาพดิจิตอลที่มีการพัฒนาจากกล้องขนาด 35 มม.ที่ใช้ฟิล์ม โดยมีหลักการทำงานเหมือนกับกล้องถ่ายภาพสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวแบบใช้ฟิล์ม จะแตกต่างกันตรงที่กล้องดิจิตอลจะใช้แผ่นการ์ดเป็นตัวรับและบันทึกข้อมูล ในปัจจุบันกล้องถ่ายภาพดิจิตอลชนิดสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวจะมีความละเอียดของภาพสูง นอกจากนั้นยังได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยเพิ่มเติมในส่วนของประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น ระบบการวัดแสง , ระบบการตั้งความไวชัตเตอร์ ,ระบบบันทึกภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่อง

3. กล้อง DSLR-Like  

กล้องประเภทนี้คือกล้องที่หน้าตาเหมือน DSLR (ข้อ 2) ทำอะไรต่างๆได้เหมือน DSLR แต่เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้และเซนเซอร์รับภาพขนาดเท่ากล้องคอมแพ็ค (Compact)

4. กล้อง Mirrorless 

กล้องประเภทนี้เป็นกล้องแบบเดียวกับ DSLR ต่างกันตรงไม่มีกระจกสะท้อนภาพเท่านั้นเอง ทำให้มีขนาดที่เล็กกว่า DSLR มาก ได้เปรียบเรื่องการพกพาที่ใกล้เคียงคอมแพค คุณภาพไฟล์รูปเท่าๆกับ DSLR

วิวัฒนาการ และประเภทของกล้องดิจิตอล

ชนิดของกล้องดิจิตอลนั้น ก็มีข้อดีแตกต่างกันออกไป เราลองมาดูกันดีกว่า ว่ากล้องติจิตอลประเภทไหน ที่เหมาะกันตัวเราที่สุดครับ

วิวัฒนาการและประเภทของกล้องดิจิตอล

ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากล้องถ่ายรูป เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป และการท่องเที่ยว วันนี้เรามีดูกันครับ ว่ากล้องดิจิตอล ก่อนมาถึงปัจจุบันมีการพัฒนามาอย่างไรกันบ้าง

กล้องดิจิตอล ถูกผลิตและใช้งานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สมบูรณ์ ในช่วงปี คศ. 1976 โดย canon และถูกพัฒนาเรื่อยมา จนมาถึงปี คศ. 1997 เป็นปีที่ผู้ผลิต ต่างผลิตกล้องดิจิตอลออกมาจำหน่ายในตลาดเป็นอย่างมาก หลากหลายยี่ห้อ ตั้งแต่กล้องคอมแพคตัวเล็กๆ จนถึงกล้องรุ่นใหญ่สำหรับมืออาชีพ ซึ่งแต่ละชนิดของกล้องดิจิตอลนั้น ก็มีข้อดีแตกต่างกันออกไป เราลองมาดูกันดีกว่า ว่ากล้องติจิตอลประเภทไหน ที่เหมาะกันตัวเราที่สุดครับ

  1.  กล้องคอมแพ็ค (Compact Camera)
    กล้องคอมแพ็ค เป็นกล้องดิจิตอลที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย เป็นกล้องที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากใช้งานง่ายและราคาไม่แพงมากนัก และในปัจจุบันได้มีการพัฒนาและออกแบบให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้สะดวก เช่น ระบบการซูมภาพ ระบบการวัดแสงอัตโนมัติ ระบบการบันทึกภาพเคลื่อนไหว และมีโปรแกรมเพื่อถ่ายแบบต่างๆเสร็จ ไม่ต้องตั้งให้เสียเวลา ใครต้องการกล้องขนาดเล็ก กะทัดรัด ใช้งานง่าย ต้องเลือกกล้องคอมแพ็คครับ

  2. กล้องดีเอสแอลอาร์ (DSLR – Digital Single Lens Reflex)
    กล้องดิจิตอลชนิดสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว เป็นกล้องถ่ายภาพดิจิตอลที่มีการพัฒนาจากกล้องขนาด 35 มม.ที่ใช้ฟิล์ม โดยมีหลักการทำงานเหมือนกับกล้องฟิล์ม จะแตกต่างกันตรงที่กล้องดิจิตอลจะใช้แผ่นการ์ดเป็นตัวรับและบันทึกข้อมูล กล้อง DSLR จะมีความละเอียดของภาพสูง นอกจากนั้นยังได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยเพิ่มเติมในส่วนของการทำงาน เช่น ระบบการวัดแสง , ระบบการตั้งความไวชัตเตอร์ ,ระบบบันทึกภาพเคลื่อนไหวต่อเนื่อง เหมาะสำหรับงานถ่ายภาพที่ต้องการความสามารถขั้นสูง ต้องการความถนัดมือการในจับถือ งานที่ต้องการการปรับตั้งค่าอย่างรวดเร็ว

  3. กล้องมิลเลอร์เลส (Mirrorless Camera)
    กล้องประเภทนี้ เป็นกล้องที่นำการผสมผสานข้อดีระหว่างกล้อง 2 แพลตฟอร์มเข้าด้วยกัน  นั่นคือกล้อง DSLR  ที่มีคุณภาพไฟล์รูปสูง แต่ในขณะเดียวกันก็มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด พกพาง่าย ซึ่งรูปร่างหน้าตามองไปก็คล้ายๆ กับ กล้อง compact กล้อง Mirrorless สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้เหมือน กล้อง DSLR ทำให้คุณภาพของไฟล์ภาพสูงเทียบกล้อง DSLR แต่ไม่ใหญ่เทอะทะ พบพาสะดวกกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้งานกล้อง แต่ต้องการไฟล์รูปคุณภาพ ไม่ซับซ้อน เน้นความคล่องตัวในการพกพา

กล้องดิจิตอลทั้ง 3 ประเภท จะรองรับความต้องการของผู้บริโภคแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้ใช้
แต่ไม่ว่าจะเป็นกล้องดิจิตอลประเภทใดก็ตาม Spa battery มีแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ ได้มารจฐาน มอก. ที่สามารถ support กล้องได้ทุกรุ่น ทุกประเภทอย่างแน่นอนครับ

ประเภทกล้อง

วิวัฒนาการ และประเภทของกล้องดิจิตอล

RAZER เปิดตัว Stragazer SR300 เว็บแคมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel RealSense

rzr_stargazer_v04

ในงาน CES 2016, Razer ได้เปิดตัวเว็บแคมที่ชื่อว่า “Stragazer SR300” ซึ่งเป็นเว็บแคมที่ถือว่ามีความก้าวหน้าอย่างมาก ด้วยความสามารถในการบันทึกวิดีโอได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ที่ความละเอียด 720p ซึ่งโดยปกติแล้วเว็บแคมทั่วไปจะถูกจำกัดอยู่ที่ 30 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น และที่ความละเอียด 1080p ก็สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือเว็บแคมรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี RealSense ของอินเทล


Stragazer SR300 มาพร้อมกับไมคโครโฟนในตัว ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้โดยอัตโนมัติ รวมไปถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับ Green Screen ได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ช่วยให้ความสะดวกกับนักเคสเกมทั้งหลายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้วด้วยความละเอียดในการทำงานของ Stragazer SR300 ทำให้เราสามารถใช้เว็บแคมรุ่นนี้ตรวจจับความเคลื่อนไหวของท่าทางของเราและทำให้เราสามารถเล่นเกมด้วยการออกท่าทางได้ (เป็นเกมที่ออกแบบมาเฉพาะ) ทำให้เว็บแคมไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับการบันทึกภาพและเสียงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

rzr_stargazer_v02
rzr_stargazer_v03
rzr_stargazer_v05

Stragazer SR300 มีกำหนดการวางตลาดในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2016 นี้

RAZER เปิดตัว Stragazer SR300 เว็บแคมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel RealSense

เทคโนโลยีกล้องวิดีโอเว็บแคม

Canon เปิดตัว “EOS Webcam Utility” ใช้กล้องเป็นเว็บแคมได้เต็มรูปแบบ

แคนนอน ประกาศเปิดตัว “ซอฟต์แวร์ EOS Webcam Utility เวอร์ชั่นเต็มรูปแบบสำหรับ Windows” อย่างเป็นทางการ โดยเพิ่มฟังก์ชั่นกล้องให้เป็นเว็บแคม เพื่อการติดต่อสื่อสารกันผ่านทางวิดีโอออนไลน์ด้วยคุณภาพที่คมชัด ซอฟต์แวร์นี้จะสามารถใช้งานได้กับกล้อง EOS แบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้และกล้องในตระกูล PowerShot ทั้งหมด 42 รุ่น ทั้งรวมถึงกล้อง EOS R5 และ EOS R6 รุ่นใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่าย (ดูรายชื่อรุ่นตามตารางด้านล่าง) และสามารถใช้ได้กับแอพพลิเคชั่นการประชุมออนไลน์แบบวิดีโอ และแอพพลิเคชั่นไลฟ์สรีมมิ่งที่ได้รับการทดสอบแล้ว  ได้แก่ Zoom, Facebook Live, Skype, YouTube Live, Microsoft Teams, Discord, Cisco Webex, Streamlabs, Google Meet, Open Broadcaster Software(OBS), Google Hangouts, Slack, Facebook Messenger

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานที่ต้องการบันทึกไฟล์วิดีโอคุณภาพสูงไปยังการ์ดความจำของกล้องขณะสื่อสารผ่านทางออนไลน์หรือไลฟ์สรีมมิ่ง สามารถทำได้อย่างง่ายดาย  เพียงแค่กดปุ่มบันทึกบนกล้องแทนการสั่งผ่านซอฟต์แวร์ เวอร์ชั่นปัจจุบันนี้จะรองรับการใช้งานร่วมกับ Windows 10 เท่านั้น ส่วนเวอร์ชั่นเต็มรูปแบบสำหรับ macOS กำลังอยู่ในดำเนินการซึ่งจะเปิดให้ดาวน์โหลดเร็วๆนี้ ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ EOS Webcam Utility สำหรับ Windows และวิธีการใช้งาน

กล้องแคนนอนรุ่นที่รองรับซอฟท์แวร์ EOS Webcam Utility

EOS R5EOS 5D Mark IIIEOS 100DPowerShot SX70 HS
EOS R6EOS 5D Mark IVEOS 200DPowerShot G7 X Mark III
EOS M200EOS 5DSEOS 200D IIPowerShot G5 X Mark II
EOS M50EOS 5DS REOS 600D
EOS M6 Mark IIEOS 6DEOS 700D
EOS REOS 6D Mark IIEOS 750D
EOS RPEOS 7DEOS 760D
EOS RaEOS 7D Mark IIEOS 800D
EOS-1D XEOS 60DEOS 850D
EOS-1D X Mark IIEOS 70DEOS 1100D
EOS-1D X Mark IIIEOS 77DEOS 1200D
EOS-1D CEOS 80DEOS 1300D
EOS 90DEOS 1500D
EOS 3000D

Canon เปิดตัว “EOS Webcam Utility” ใช้กล้องเป็นเว็บแคมได้เต็มรูปแบบ

เรื่องน่ารู้ เทคโนโลยี 2020

กล้องวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference)

กล้องวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) สำหรับการเรียนการสอนออนไลน์, สอนทางไกล (online learning) การประชุมทางไกล, ประชุมออนไลน์ ที่สามารถซูม ปรับมุมกล้องรอบทิศได้กว้างกว่าด้วยรีโมท อีกทั้งยังให้ภาพสีสมจริง คมชัดได้แม้แสงน้อย และยังสามารถใช้งานร่วมกับ Video Conference Software ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Team, Zoom, Google Hangout Meet, Cisco WebEX และ Skype รองรับมาตรฐาน UVC ไม่ต้องลง Driver ใดๆ

กล้องวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) PTZ 12X Optical Zoom ที่รองรับ Pan 340°, Tilt 120° มาพร้อม USB3.0 / DVI output เหมาะสำหรับการเรียนการสอนออนไลน์, สอนทางไกล (online learning) การประชุมทางไกล รองรับมาตรฐาน UVC ไม่ต้องลง driver ใดๆ

คุณสมบัติ

  • รองรับ Pan 340°, Tilt 120°
  • รองรับความละเอียดภาพสูงสุด 1080p ที่ 60Hz
  • เป็น USB3.0 และรองรับการเชื่อมต่อกับ USB2.0 ได้
  • 12x Optical Zoom และมีค่า Field of view (FOV) 72.5º-6.3º
  • รองรับมาตรฐาน UVC ช่วยให้ไม่ต้องลง Driver ใด ๆ
  • มาพร้อมกับ IR Remote control
  • มี OSD menu รองรับการ Flip ภาพ
  • มีช่องต่อ DVI-D output
  • รองรับ Visca และ Pelco protocol สำหรับควบคุมจากแผงควบคุม
  • มีช่องต่อ RS232 IN, IR & RS232 OUT/RS485 control interface
  • รองรับการต่อ daisy chain สาย Serial สำหรับการควบคุมกล้องหลายตัว ด้วย VISCA Protocol
  • มีระบบขับเคลื่อน PTZ เชิงกลแบบพิเศษ ช่วยให้หมุนไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ

ข้อมูลจำเพาะ

กล้องวิดีโอเว็บแคม

กล้องมีกี่ประเภท?

เกริ่นนำ: หลายคนชอบถ่ายภาพแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เลือกใช้กล้องแบบไหนให้เหมาะสมกับการใช้งานตามวัตถุประสงค์ เพราะจะเห็นกล้องเยอะแยะมากมายหลากหลายแบบ เพื่อเป็นการง่ายและสะดวกต่อการเลือกใช้ เราจึงจำแนก แยกประเภท มาให้ทำความเข้าใจกันก่อนตัดสินใจเลือกดูกล้องไว้ใช้งานสักตัว

กล้องมี4ประเภท

1.กล้องCompact จะแบ่งย่อยเป็น2แบบ

แบบแรก (ทั่วไป) ซึ่งมีขนาดเล็กกะทัดรัด ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ใช้งานง่ายส่วนใหญ่ จะมีโหมดสำเร็จรูปมาให้ เป็นออโต้ทั้งหมดสีสันดีไซน์สวย เช่น Nikon CoolPix A100 ,Canon Ixus190, Fujifilm FinePix XP-120 ราคาไม่แพง เริ่มต้น2พันปลายขึ้นไป

แบบสอง (ไฮเอนด์) จะมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่กว่า จะได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่าคอมแพคด้วยกันและดีกว่ามือถือ เพราะเซ็นเซอร์มีขนาด1นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเซ็นเซอร์คอมแพคทั่วไปหลายเท่าตัว เช่น Canon PowerShot G7X Mark II,Sony Cybershot RX100 Mark IV และยังมีฟังก์ปรับตั้งกล้องได้เหมือนกล้องใหญ่กันเลยทีเดียว ราคาก็จะเริ่มประมณหมื่นกลางๆขึ้นไป

2.กล้องDSLR

ย่อมาจาก Digital Single-Lens Reflex หรือ กล้องดิจิตอลสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว กล้องที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้  มองผ่านเลนส์  มีกระจกสะท้อนภาพ  มีช่องมองภาพแบบออพติคอล  ได้ตรงตามที่เห็นและก็ยังสามารถมองที่จอ LCD โดยเป็นการมองเห็นจากสถานการณ์จริง  หลักๆDSLR จะมีเซ็นเซอร์อยู่2ขนาด คือ full frame และ APS-C Fullframe จะมีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่มาจากฟอร์แมทฟิลม์35มม. ส่วนAPS-Cที่เราเรียกว่ากล้องตัวคูณ คูณเพื่อให้เท่าขนาดของFull frame ซึ่งเซ็นเซอร์ใหญ่ก็จะได้เปรียบเรื่องของไฟล์ภาพที่ทีคุณภาพมากกว่า ราคาก็จะเริ่มต้นที่5หมื่นบาทขึ้นไป ส่วนAPS-Cเริ่มต้นประมาณหมื่นปลายๆ

3.กล้องDSLR-Like

กล้องดิจิตอลที่มีรูปทรงคล้าย DLSR แต่มีขนาดเล็กกว่า ปรับตั้งค่ากล้องเหมือนDSLR เพียงแต่ถอดเปลี่ยนเลนส์ไม่ได้  แต่มีขนาดซูมมากที่ติดมาพร้อมตัวกล้อง และยังมีเซ็นเซอร์ขนาดเท่ากับกล้องCompactทั่วไป เหมาะสำหรับคนเพิ่งเริ่มเล่นกล้องและ ไม่อยากพกอะไรมาก ตัวเดียวจบเที่ยวทั่วไทยได้เลย ราคาเริ่มต้น ประมาณหมื่นกลางๆ

4.กล้องMirrorless (ไม่มีกระจกสะท้อนภาพ)

กล้องที่เอากระจกสะท้อนภาพออก ซึ่งไม่มีช่องมองภาพ หรือบ้างรุ่นที่มีช่องมองภาพ ไม่ได้มองผ่านเลนส์ เรียกว่าอิเล็กทรอนิกส์ วิวไฟน์เดอร์ หลักๆเซ็นเซอร์ที่ใช้มี3ขนาด Full frame ,APS-C ,4/3 (four thirds) ณ.ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่ากระแสกล้องมิลเลอร์เลสได้รับความสนใจ จากกลุ่มนักถ่ายภาพมาก ที่มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาขึ้น อุปกรณ์เสริมต่างๆก็เล็กลง ทำให้การถือไปถ่ายภาพสะดวก และยังคงได้ภาพเหมือนกับกล้องใหญ่ ราคาเริ่มต้นหมื่นกลางๆ

สรุป ซึ่งโดยส่วนใหญ่ที่ใช้กัน จะอยู่ในกลุ่ม4ประเภท ที่ได้แนะนำกันไป แต่ก็ยังมีกล้องแบบอื่นๆอีก เช่น Range Finder , Medium Fomat แต่ราคาแพงมากๆ เป็นแสนบาทจนถึงหลักล้านบาท คนที่ใช้งานก็จะเป็นเฉพาะกลุ่มอยู่  ถ้าสนใจเป็นแบบไหนก็ไปลองหาชมกันได้ที่ร้านอีสบอนน์ทุกสาขา

—————-

กล้องฟลูเฟรม กับ ตัวคูณต่างกันอย่างไร

กล้องฟูลเฟรม คือ เราจะยึดฟอร์แมทสมัยยุคฟิลม์เป็นหลัก คือถ้าเราตัดแผ่นฟิลม์35มม. ออกมา1แผ่นจะได้ขนาด36×24มม. พอมาในยุคดิจิตอล เราก็เลยเรียกกล้องที่มีเซ็นเซอร์เท่ากับแผ่นฟิลม์35มม. ว่าฟูลเฟรมนั่นเอง เป็นฟอร์แมทหลัก

กล้องตัวคูณ คือ กล้องที่มีเซ็นเซอร์เล็กกว่าฟิลม์35มม. เช่น เซ็นเซอร์APS-C ก็จะมีขนาดเล็กว่าฟลูเฟรมอยู่1.5เท่า หรือ 1.6เท่า แล้วแต่ยี่ห้อ

ภาพที่ได้ก็จะมีขนาดที่เล็กกว่าเมื่อยืนที่เดียวกัน เหมือนภาพโดนครอปให้แคบขึ้นอีกตามตัวเลขที่บอกไป เวลาใช้งานกับเลนส์ เช่น เลนส์50มม. เราจะไม่ได้ตัวเลข50มม.ตามเลนส์ต้องคูณเพิ่มเข้าไปอีก1.5หรือ1.6แล้วแต่ยี่ห้อ พอคูณออกมาเราจะได้ตัวเลขจริงของเลขตัวนั้นประมาณ75-80มม. เราจึงเรียกว่ากล้องตัวคูณนั่นเอง

จุดเด่นฟูลเฟรม

  • มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ ทำให้มีขนาด Pixel ใหญ่ด้วย ทำให้มี Noise น้อยกว่า กล้องขนาด APS-C
  • สามารถเก็บรายละเอียดของแสงส่วนมืดและสว่างได้ดีกว่า (Dynamic Range)
  • มีระยะชัดตื้นมากกว่ากล้อง APS-C
  • มีขนาด Sensor ใหญ่ ทำให้คุณภาพของภาพดีกว่า
  • ได้มุมรับภาพที่กว้างมากกว่ากล้อง APS-C (ถ้าใช้เลนส์ช่วงเท่ากัน)

จุดเด่นตัวคูณ

  • ตัวกล้องมีขนาดเล็กและเบากว่ากล้องที่มีขนาด Full frame
  • กล้องAPS-C เมื่อใส่เลนส์ ทางยาวโฟกัสจะมากขึ้น (ด้วยเหตุผลเรื่องตัวคูณเซ็นเซอร์)
  • เมื่อใส่เลนส์ตัวเดียวกัน ความคมชัดของภาพที่ได้จะดีกว่ากล้อง Full frame เนื่องจากกล้อง APS-C จะCrop ตรงกลางภาพอยู่แล้ว

สรุป

การใช้งานกล้องแต่ละแบบขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้ใช้งาน ว่าต้องการภาพแบบไหน เน้นเก็บรายละเอียดก็ลองหาฟูลเฟรมมาใช้ ถ้าต้องการทางยาวโฟกัสไกลเมื่อใช้งานร่วมกับเลนส์ซูมก็ใช้กล้องตัวคูณจะได้เปรียบ ทั้งหมดนี้ก็มีปัจจัยอย่างอื่นๆด้วย

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท สำหรับมือใหม่เน้นถ่ายภาพสวย ออกทริปได้ดี ถ่าย VLOG สนุก อีกทั้งยังเน้นด้านการดีไซน์เหมาะกับมือใหม่ระดับเริ่มต้น ในวันนี้ผมได้รวมจากประสบการณ์ที่เคยใช้มา และเอามาแนะนำเพื่อให้คนที่กำลังมองหากล้องราคาไม่เกิน 25,000 บาท ได้กล้องที่คุ้มค่าที่สุด แล้วก็เหมาะสำหรับมือใหม่ ซึ่งสามารถได้ความคุ้มค่าทั้งภาพนิ่งและวีดีโอแน่นอนครับ

5 กล้อง MIRRORLESS ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 UPDATE]

1. CANON EOS M50 กล้องมิลเรอร์เลสสำหรับมือใหม่ ซึ่งให้สเปคมาคุ้มค่าที่สุด SKIN TONE สวย ถ่ายภาพได้สีที่ผิวเนียนสไตล์ CANON ถ่ายวีดีโอ 4K ได้

กล้อง Canon EOS M50 เป็นกล้องที่ให้สเปคมาดีเกินคาดตั้งแต่เปิดตัว ทั้งความละเอียด ความสามารถในการถ่ายวีดีโอที่ดีมาก บอดี้เหมาะกับทุกคน จับถือง่าย มีน้ำหนักเบา สกินโทนก็สวย เหมาะกับมือใหม่มากพอสมควร อีกทั้ง Canon เองก็มีระบบเลนส์ที่ครบทุกช่วงให้ใช้ แม้ว่า Mount Lens ของ Canon EOS M50 เป็น EF-M Mount แต่เขาก็ยังได้ผลิต Adapter เลนส์สำให้หรับใช้งาน EF, EF-S ได้ ทำให้เรามองเห็นภาพว่า Canon ตั้งใจจะให้เลนส์ทั้งระบบของกล้องแบรนด์นี้ใช้งานร่วมกันได้ให้มากที่สุด

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 Update]

จุดเด่นที่น่าสนใจของ CANON EOS M50

  1. ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งมากเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับถ่ายภาพนิ่ง อัพลง Facebook, Blog หรือทำคอนเทนต์รีวิวที่เน้นความจริงจังในการนำเสนอ
  2. ถ่ายวีดีโอความละเอียดที่ 4K ได้ สามารถที่จะใช้ถ่ายงานได้ดี แม้ว่าปัจจุบันจะใช้ความละเอียดที่ Full HD แต่ว่าเมื่อมีวีดีโอแบบ 4K จะช่วยให้ Crop และขยายรายละเอียดในการทำวีดีโอได้มากขึ้น
  3. ระบบโฟกัส Dual Pixel มีความแม่นยำจนไว้ใจได้จริง ๆ แม้ว่าจะเป็นกล้องระดับเริ่มต้นแต่ Canon ใส่ให้เรียบร้อยแล้ว ทำให้การโฟกัสแม่นยำ นุ่มนวล ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
  4. หน้าจอ Touch Screen พร้อมทั้ง Drag Focus ได้ เป็นการใช้ที่นุ่มนวล เรียบง่าย
  5. ระบบกันสั่นแบบ 7 แกน (5 แกนเป็น Digital และ 2 แกนเป็น Analog ที่ Lens) ช่วยลดการสั่นไหวได้ในระดับนึงสำหรับโหมดวีดีโอ
  6. หน้าจอพับได้ สามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวก ทำให้เวลาถ่ายภาพมุมกด มุมอื่น ๆ มีความสะดวกมากขึ้น สามารถที่จะยกถ่าย Selfie ได้ด้วย ใช้ในการ Vlog ได้ ตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกกลุ่มได้ดี
  7. มี Adapter แปลงให้ใช้สำหรับเลนส์ Canon EF, EF-S ทำให้ใครที่อยากถ่ายภาพจริงจังด้วยกล้องตัวนี้มีทางเลือกในการซื้อเลนส์มาใช้ได้
  8. มีช่องเสียบ Microphone สำหรับถ่ายวีดีโอ เวลาที่ถ่าย Vlog สามารถอัพเกรดระบบเสียงด้วย Microphone จากภายนอกได้ ทั้งแบบ Wireless และ Shotgun Microphone
  9. น้ำหนักเบา ดีไซน์สวย เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ชอบกล้องง่าย ๆ ถ่ายสนุก ได้สกินโทนสวย จอพับได้
5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 Update]
Canon EOS M50 รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K
5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 Update]

ข้อสังเกตของ CANON EOS M50

  • ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้องแบบ Mechanic ทำให้เกิดการสั่นไหวพอสมควรถ้าเดินด้วยน้ำหนักปกติเวลาถ่ายวีดีโอ

CANON EOS M50 + 15-45MM ราคา 21,900 บาท – 23,990 บาท (ประกันศูนย์)

*ราคาช่วง Promotion หรืองาน Photo Fair 2019 น่าจะมีแนวโน้มลดเยอะกว่านี้ สอบถามตามร้านค้าที่จำหน่ายประกันศูนย์อย่างเป็นทางการดูอีกครั้งนะครับ


2. FUJIFILM X-T100 กล้องมิลเรอร์เลสระดับเริ่มต้น การดีไซน์ RETRO เน้นความสวยงาม และการถ่ายภาพให้สวยเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมสีฟิล์มสไตล์ FUJIFIM ที่จบได้ในกล้องเลย

Fujifilm X-T100 เป็นกล้องรุ่นเริ่มต้นที่ให้สเปคมาดีมาก เหมาะกับมือใหม่ระดับเริ่ต้น ใช้ถ่ายภาพท่องเที่ยว เน้นความละเอียดสูง ถ่ายวีดีโอได้ดี มีฟีเจอร์ Film Simulate ข่วยให้การทำสีฟิล์มได้ง่าย จบในกล้องเลย

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 Update]

สำหรับคนที่ชอบกล้อง Fujifilm รวมถึงกล้องสไตล์ Retro ตัว Fuji XT100 นั้นจะให้ฟิลลิ่งเหมือนกล้อง SLR นิด ๆ อารมณ์ย้อนยุค ถึงจะว่าอย่างนั้นประสิทธิภาพมันก็เหลือที่จะใช้ถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวีดีโอนิดหน่อย เน้นท่องเที่ยว แล้วก็ระบบเลนส์มีให้เปลี่ยนให้ใช้เยอะ เป็นกล้องที่ให้ความสนุกสำหรับการออกทริปเหมือนกัน

จุดเด่นที่น่าสนใจของ FUJI XT100

  1. ความละเอียดเพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่ง 24 ล้านพิกเซลนั้นจะใช้ถ่ายภาพแล้วก็อัพเฟซบุ๊คได้สบายมาก สามารถเอา RAW File มาแต่งให้สนุกได้เหมือนกัน
  2. หน้าจอรองรับการ Touch Screen สั่งงานได้สะดวก สำหรับมือใหม่
  3. การ Design ทำให้คนทั่วไปใช้กล้องได้สนุกมากขึ้น การออกแบบสวยเหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวมาก
  4. มีโหมด 4K Burst ใช้ถ่ายภาพต่อเนื่อได้ดีถ้าต้องการใช้ถ่ายต่อเนื่องนะ
  5. กล้องตัวนี้สามารถเอาไปต่อยอดได้ดี เพราะมีความละเอียดสูงและ Fujifilm มีระบบเลนส์ที่มีให้เลือกใช้เยอะมาก เลนส์มีให้ซื้อครบช่วง ราคาไม่สูง เลนส์มีความคมสวยเยอะ
  6. หน้าจอ 3 ways tilt lcd เป็นเลนส์ปรับมุมมองแบบ Fujifilm รุ่นพี่ ทำให้สามารถถ่ายภาพมุมมองหลาย ๆ แบบได้สะดวกมากกว่า
  7. มีโทนสี Film Simulate สามารถที่จะถ่ายภาพโทนฟิล์มให้จบจากในกล้องได้เลย

ข้อสังเกตของ FUJIFILM X-T100

  1. ถ่ายวีดีโอที่ใช้ได้จริง ๆ คือ Full HD แม้ว่าตัวกล้องจะถ่ายวีดีโอแบบ 4K ได้ แต่ก็ได้แค่ 15p ซึ่งความสามารถนี้เอามาขยายศักยภาพในการถ่ายภาพมากกว่า เช่นโหมด 4K Burst เป็นต้น
  2. ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้อง

FUJIFILM X-T100 + 15-45MM ราคา 18,900 บาท


3. FUJIFILM X-A7 กล้องมิลเรอร์เลสเซลฟี่รุ่นล่าสุด พร้อมจอพับที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น

Fujifilm X-A7 กล้องระดับเริ่มต้นในราคาที่จับต้องได้ ที่ถือว่าเป็นตระกูลขายดีมาก ๆ โดยเฉพาะในประเทศไทย สำหรับ Fujifilm X-A7 รอบนี้โดนเด่นตรงที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นมาก ในอัตราส่วน 16:9

จุดเด่นจริงๆ ของกล้องฟูจิคือการถ่าย Portrait ออกมาได้สวย แต่รอบนี้จะเน้นเรื่องของวีดิโอมากขึ้นถูกใจสาวๆ สาย Vlog เพราะนอกจากจะได้สกินโทนที่สวยแล้ว น้ำหนักยังเบา สามารถถือถ่ายได้สบายๆ พร้อมระบบโฟกัสที่รวดเร็วขึ้น สาย Type-C และ สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 30 FPS และยังเป็น Clean HDMI สามารถนำมา Live ได้อีกด้วย

จุดเด่นที่น่าสนใจของ FUJIFILM X-A7 

  • Sensor ขนาด APS-C ความละเอียด 24 MP
  • หน้าจอ LCD ขนาด 3.5” อัตราส่วน 16:9 รองรับระบบ Touchscreen
  • หน้าจอรูปแบบใหม่ Vario Angle
  • Skin Tone สวยงามเป็นธรรมชาติ
  • ติดตั้ง Joystick เพื่อควบคุมการทำงานแทน D-Pad
  • อัตราการถ่ายต่อเนื่อง 6 fps ถ่าย Video 4K
  • น้ำหนักเบาเพียง 320 กรัม จับถนัดมือ มีความคล่องตัวสูง

FUJIFILM X-A7 + 15-35MM ราคา 23,990 บาท สินค้าประกันศูนย์


4. SONY A6300 กล้องรุ่นเก่าหน่อย แต่ว่าคุ้มเรื่อของประสิทธิภาพ

กล้องรุ่นนี้เป็นกล้องรุ่นที่ออกมาก่อน Sony A6500 และ Sony A6400 ถึงแม้จะพูดแบบนั้นแต่ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ดรอปลงเลย และเคยเป็นกล้องที่อยู่ในกลุ่ม Flagship ด้วย กล้องตัวนี้ปัจจุบันราคาลงมาเยอะมากพอสมควร เรื่องของความละเอียดก็เยอะพอที่จะเท่ากับระดับกล้องในปัจจุบันแล้ว รวมถึงการถ่ายภาพต่อเนื่องก็ได้เยอะถึง 11 เฟรมต่อวินาที ก็เท่ากับกล้อง Flagship อีกต่างหาก รวมถึงวีดีโอ 4K ก็สามารถถ่ายได้ด้วย ระบบโฟกัสก็ทำได้ดี

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

จุดเด่นของ SONY A6300

  1. ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล เยอะเท่ากล้อง Flagship บนเซ็นเซอร์ APS-C ในปัจจุบัน
  2. ระบบโฟกัสทำได้รวดเร็ว 0.05 วินาทีก็โฟกัสได้แล้ว
  3. มีจุดโฟกัส 425 จุดเหมือนกับกล้อง Flagship ปัจจุบันหลายตัว
  4. ถ่ายวีดีโอ 4K ได้ พร้อมกับโปรไฟล์สี S-Log สำหรับ Grading สี
  5. น้ำหนักเบา บอดี้มีขนาดเล็ก
  6. มีช่องต่อไมโครโฟนแบบแยก ใช้อัพเกรดคุณภาพเสียงได้กรณีที่ต้องถ่ายวีดีโอเป็นหลัก
  7. ราคาคุ้มค่ามาก ๆ ในช่วงนี้
5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

ข้อสังเกตของ SONY A6300

  1. ถ่ายวีดีโอ 4K ต่อเนื่องสัก 10-15 นาที กล้องจะเริ่มร้อนแล้ว ถ้าถ่ายกลางแจ้ง 4K มีกล้องร้อนแน่นอน
  2. ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้อง
  3. จอพับ Selfie ไม่ได้ แต่ปรับมุมมองได้เฉย ๆ

SONY A6300 ราคา 22,990 บาท (ประกันศูนย์)


5. OLYMPUS OM-D E-M10 MARK III กล้องน้องเล็ก ขนาดเล็ก ที่อัดเทคโนโลยีให้เก่งเหมือนกล้องใหญ่ได้

กล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark III เรียกได้ว่าเป็นกล้องที่เปิดใจให้ผมย้ายจาก DSLR มา Mirrorless เลยก็ว่าได้ เพราะว่ากล้องตัวนี้แม้ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ขนาด micro 4/3 ที่เล็ก แต่ด้วยเพราะขนาดเล็กเลยทำให้ประสิทธิภาพหลายอย่างดีขึ้นแบบชัดเจน เช่น ระบบกันสั่นทำได้ดีกว่ากล้องเซ็นเซอร์ APS-C หรือ Full Frame พอสมควร เพราะน้ำหนักเซ็นเซอร์น้อยกว่า

อีกทั้งด้วยเป็นกล้องขนาดเล็กก็เลยทำให้ระบบโดยรวมทั้งหมดเล็กตาม เลนส์ก็เล็กกว่า น้ำหนักเบากว่า ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวสนุกมากกว่า ระบบโฟกัสเร็วขึ้นมาก เพราะเลนส์เล็ก น้ำหนักเบา ชุดมอเตอร์ก็ไม่ต้องทำให้ยุ่งยาก อีกทั้งฟังก์ชั่นการถ่ายรูปให้สวยเหมือนแบบโปรก็ทำได้ด้วยการปรับโหมดแค่กริ๊กเดียวแล้วกดชัตเตอร์ก็ทำได้เลย (มันทำได้จริง ๆ นะเพราะยุคนี้เทคโนโลยีไปอยู่ในอะไรมันก็ทำได้ทั้งนั้น)

จุดเด่นของ OLYMPUS OM-D E-M10 MARK III

  1. กล้องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ระบบโฟกัสทำได้รวดเร็ว ทำให้คนถ่ายรูปสนุกกับการเดินทางและถ่ายภาพมากขึ้น
  2. ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พอกับการถ่ายภาพทั่วไป อัพภาพ อัพลงเฟซบุ๊คสบาย
  3. ระบบกันสั่นทำได้ดี ในระดับที่ดีมาก ๆ เลย เพราะว่าเซ็นเซอร์มีขนาดเล็ก ทำให้เซ็นเซอร์น้ำหนักเบา กันสั่นได้ดี โดยเฉพาะ Olympus มีจุดเด่นเรื่องนี้
  4. ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี เพราะระบบกันสั่นชดเชย Shutter Speed ได้เยอะ ใช้ชัตเตอร์ต่ำ ๆ ได้โดยที่กล้องไม่สั่นไหว
  5. ระบบโฟกัสยอดเยี่ยม โฟกัสได้เข้าเป้าและรวดเร็ว
  6. เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่อยากจะยุ่งยากเรื่องการตั้งค่าอะไรให้วุ่นวาย เพราะกล้องมีโหมดที่ซัพพอร์ตให้มือใหม่ถ่ายภาพสวย ๆ ได้เลย

ข้อสังเกตของ OLYMPUS OM-D E-M10 MARK III

  1. เซ็นเซอร์เล็ก มีข้อจำกัดเรื่องคุณภาพไฟล์ในที่แสงน้อยถ้าหากแสงไม่พอ แต่สามารถชดเลยด้วยการถ่าย Shutter Speed ต่ำแล้วใช้ระบบกันสั่นแทน (เรื่องนี้เจอไม่บ่อย แต่ถ้าเจอก็ตามที่บอกนี่แหละ)
  2. ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล อาจจะรู้สึกน้อยไปหน่อยสำหรับหลาย ๆ คน

OLYMPUS OM-D E-M10 MARK III ราคา 26,990 บาท (เกินงบนิดหน่อย แต่ช่วงโปรราคาไม่เกิน 25,000 บาทมีให้เห็นบ่อยพอสมควร)


6. SONY A6400 กล้อง VLOG ที่สเปคเท่ากล้อง MIRRORLESS ระดับ SEMI PRO (กล้องเกินงบหน่อยแต่คุ้ม)

กล้อง Sony A6400 เป็นกล้องตัวใหม่ที่ Sony ได้นำเข้ามาในตลาดซึ่งรุ่นนี้ประสิทธิภาพโดดเด่นกว่า A6300 รุ่นก่อนหน้าเกือบไปแตะรุ่น A6500 ที่เป็น Flagship ของค่ายเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลทางการตลาดและ Position ของกล้อง A6400 ที่ต้องออกมาในกลุ่ม VLOG ก็เลยทำให้ยังอยู่ในระดับเริ่มต้นแต่สเปคหลุดมาเกือบจะรุ่นท็อปเลย

เหตุผลที่แนะนำกล้องนี้คือสำหรับคนที่รักประสิทธิภาพ ผมก็คงต้องยกให้กล้อง Sony แน่ ๆ เพราะเป็นกล้องที่ให้ทั้งระบบโฟกัสที่ดี ไฟล์ Sony ในระดับ APS-C ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้นเลย แล้วด้วยที่ความสามารถระดับกล้อง Semi Pro ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องศักยภาพรวมของตัวกล้องครับ

จุดเด่นของ SONY A6400

  1. ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน อัพภาพลงเฟซบุ๊ค เอาภาพไปพิมพ์ สามารถได้ภาพที่สวยงาม
  2. หน้าจอขนาด 3.0 นิ้ว ปรับมุมมองได้ สามารถที่จะถ่าย Selfie หรือว่า Vlog ก็ได้
  3. ถ่ายภาพต่อเนื่อง 11 FPS ต่อวินาที ความสามารถเท่ากล้องระดับ Sport ไปแล้ว
  4. จุดโฟกัส 425 จุด อันนี้คือสิ่งที่ Sony ทำออกมาได้ดีจริง ๆ และมีประสิทธิภาพที่สูงมาก
  5. ถ่ายวีดีโอความละเอียดระดับ 4K ได้ ซึ่ง Sony ทำได้ดีตั้งแต่รุ่น A6300 แล้ว
  6. มีช่องต่อ Microphone สำหรับทำ Video แล้วอัพเกรดประสิทธิภาพเสียงให้ดีขึ้นได้
  7. ระบบเลนส์ Sony มีให้ใช้ทั้ง APS-C และ Full Frame พร้อมกับมีเลนส์ Third Party ในตลาดแล้ว มีเลนส์ให้ใช้เพียบ
  8. ในช่วงราคานี้ ได้กล้องประสิทธิภาพเท่านี้คือค่อนข้างคุ้มค่ามาก ๆ แล้ว

ข้อสังเกตของ SONY A6400

  1. ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้อง

SONY A6400 ราคา 32,990 บาท


7. FUJIFILM X-A5 กล้องมิลเรอร์เลสเซลฟี่ ที่ท่องเที่ยวได้สนุก ดีไซน์สวย สีผิวเนียน เหมาะสำหรับผู้หญิงและคนชอบเที่ยวแบบชิค ๆ

กล้องสาย Selfie เน้นหน้าเนียนสวย แม้ว่าช่วงนี้กระแส Selfie ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักแล้วเพราะดูค่อนข้างเงียบไป แต่การท่องเที่ยวต้องบอกเลยว่าถ้าใครไม่ถ่ายเฟลฟี่เลยนี่น้อยมาก ๆ เพราะงั้นซื้อมาได้ใช้แน่นอน นอกจากนี้การถ่ายภาพแบบทั่วไปก็ยังทำได้ดี แล้วก็ออกไปทางดีมากด้วย (สำหรับคนทั่วไปนะ เอาไปเทียบกับกล้องโปรอาจจะคงไม่ใช่)

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

ถ้าหากมองในภาพรวม Fujifilm X-A5 เป็นกล้องที่เที่ยวสนุก ดีไซน์ให้ความหวาน การใช้งานที่ดู Casual เพิ่มขึ้นเยอะ หน้าตาการออกแบบดูสวยงาม พกสนุก ถ่ายภาพก็โอเคทั้ง Portrait และ Landscape มียังมีโหมดสีฟิล์มด้วย ก็เป็นกล้องตัวเด่นหนึ่งเหมือนกันสำหรับสายเที่ยวเข้ากันแน่นอนกับกล้องตัวนี้

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

จุดเด่นที่น่าสนใจของ FUJI XA5

  1. ความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล เพียงพอตอ่การใช้งานในทุกวัน
  2. มีโหมดถ่ายภาพนิ่ง 4K Burst ใช้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ดี
  3. หน้าจอพับสำหรับถ่าย Selfie เหมาะกับคนที่ต้องการถ่ายภาพตัวเอง
  4. มีโหมด Portrait Enhancer ทำให้สามารถถ่ายภาพได้สวยงามมากขึ้น
  5. มีระบบโฟกัสแบบ Eye AF และ Face Detection ทำให้โฟกัสได้แม่นยำ
  6. รองรับการสั่งงานผ่าน Touch Screen ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายสำหรับคนทั่วไป
  7. มีโหมด Macro ถ่ายภาพระยะใกล้

ข้อสังเกตของ FUJI XA5

  1. ถ่ายวีดีโอ 4K เป็นโหมดเสริมสำหรับภาพนิ่งมากกว่า เพราะถ่ายได้แค่ 15 เฟรม
  2. ไม่มีระบบกันสั่นภายในตัวกล้อง
  3. ไม่มีช่องเสียบไมโครโฟนสำหรับสาย VLOG

FUJIFILM X-A5 ราคา 19,990 บาท (ประกันศูนย์)