AI (Artificial Intelligence) หรือที่เรียกกันว่า “ปัญญาประดิษฐ์” AI ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่กำลังมาแรงในยุคสมัยนี้เลยก็ว่าได้
คงต้องยอมรับเลยว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือจะเรียกว่าเป็น Machine Learning เป็นที่นาสนใจมาในระยะเวลาหนึ่งแล้ว จนในปัจจุบัน จะเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ ที่คนทั่วโลหให้ความสนใจ และพัฒนาต่อเนื่อง ที่มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในหลากหลายรูปแบบ ทั้งด้านธุรกิจ และด้านอุตสาหกรรมอีกด้วย หรือจะว่าไปแล้วระบบนี้มันเกิดมาเพื่อยุคอนาคตอย่างแท้จริง
และเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ ให้กับมนุษยชาติ ที่สร้างความสะดวกสบาย ทั้งต่อการดำรงชีวิต และการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ (Big Data) ที่สามารถจะวิเคราะห์ และตอบสนอง ความต้องการ ได้อย่างถูกต้อง และแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาคธุรกิจ ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง
AI (Artificial Intelligence)
เป็นอีกหนึ่งการสร้างระบบการเรียนรู้ข้อมูล และการทำลายข้อมูล รวมไปถึง Data Platform ต่างๆ ที่เพิ่มศักยภาพในการประมวลผล และการเรียนรู้ โดยระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อช่วยในการทำนายผลของข้อมูลได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากระบบปฏิบัติการของ AI มีความจำ ในการใช้การเรียนรู้ ผ่านข้อมูลต่างๆได้เป็นอย่างดียิ่ง ยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งสามารถสร้าง AI ให้มีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย จะเรียกได้ว่า เป็นเสมือนอุปกรณ์พิเศษ ที่เพิ่มความสามารถ ในการสร้าง การจดจำ และการประมวลผล
รวมไปถึงการตอบสนอง ในสถานการณ์ต่างๆ และรวบรวมออกมา เป็นข้อมูล สถิติ ซึ่งจะพบว่าแมชชีนเลิร์นนิ่ง ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ในการเลือกความแตกต่าง การตัดสินใจ ของระบบ AI ที่พัฒนาจนเป็นเสมือนมันสมองของมนุษย์ ที่ตอบสนองความรู้สึก และการรับรู้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในบางประเทศมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้ทรัพยากรในการประมวลผลจำนวนมาก และการนำเอาฮาร์ดแวร์พิเศษ ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะในการช่วยการประมวลผลจำนวนมาก เพื่อลดระยะเวลาในการประมวลผลได้เป็นอย่างดี จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจในการทำเรื่องอยากให้เป็นเรื่องง่ายได้นั่นเอง
อีกทั้งยังสามารถที่จะช่วยเสริมพลังการแยกแยะได้เป็นอย่างดีด้วย Deep Learning อีกด้วย ซึ่งในเวลานี้ทุกคนสามารถเข้าใจและตระหนักถึงประโยชน์ของ AI ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเราสามารถสร้างระบบที่มีความซับซ้อน เพื่อใช้ในการจำแนกและแยกแยะสิ่งต่างๆได้ และเราก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการออกแบบ ui ตามวิธีของการทำงานของสมองมนุษย์เลยทีเดียว
รวมไปถึงการระบุตัวตน โดยสามารถระบุตัวตนผ่านไบโอเมตทริกซ์ ที่เรียกได้ว่าสามารถที่จะตรวจเช็คอย่างเช่น ลายนิ้วมือ ม่านตา หรือภาษากาย และเสียงได้ โดยการพัฒนาระบบของ AI จึงเป็นอีกหนึ่งความสามารถ ที่จะจดจำรูปแบบ และแยกแยะ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน หรือระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้อีกด้วย
ประโยชน์ของมันยังไม่หยุดแค่นั้น มันยังสามารถที่จะสร้างมา เพื่อรู้จักภาษามนุษย์ ที่ช่วยให้มนุษย์ใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยระบบประสาท และประมวลผลภาษาธรรมชาติเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์ กับคอมพิวเตอร์ ได้อย่างเป็นธรรมชาติอย่างสูงที่สุด ด้วยเทคโนโลยีที่มีการวิเคราะห์คำสั่ง และความต้องการภาษาต่างๆ
โดยเราจะเห็นได้เป็นอย่างดีในการใช้งานผ่าน Google นั่นเองที่สามารถตอบโต้ และพูดคุยกันด้วยเสียงสังเคราะห์ เสียงที่พูดเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งระบบ ที่สามารถทำงานกันเป็นแบบแผน และเป็นทีมได้ และสามารถโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วทันใจ
เข้าถึงทุกบริการได้ง่ายๆ ด้วยผู้ช่วยเสมือนจริง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำให้เราสามารถเข้าถึงคลังความรู้ หรือบริการต่างๆได้เป็นอย่างดีได้แบบที่เรียกได้ว่าไม่รู้จบเลยก็ว่าได้ ที่เรารู้จักกันอย่างชัดเจนและเห็นได้อย่างเป็นรูปประธรรมมากที่สุด นั่นก็คือ Siri ซึ่งสามารถเข้าถึง และเข้าใจถึงตารางงาน อีเมล หรือ นาฬิกา
รวมถึงสิ่งต่างๆที่คุณควรที่จะมีอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเข้าใจความต้องการของมนุษย์ และยังสามารถที่จะใช้ในการบริการ หรือการค้นหา เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์และสร้างความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังมีระบบอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ที่เรียกได้ว่าถูกนำไปใช้ในวงการอุตสาหกรรมได้อย่างยาวนาน แต่การนำหุ่นยนต์มาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนในชีวิตประจำวันของเรา ที่มีความจำกัดที่สามารถใช้ได้เลยทีเดียว
เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าประโยชน์ของ AI นั้นมีมากมายหลากหลายรูปแบบให้คุณได้รู้จักกันและถือว่าแต่ละอย่างนั้นค่อนข้างที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานไม่น้อยเลยก็ว่าได้และเรียกว่ายิ่งพัฒนาไปเรื่อยๆความต้องการเหล่านี้นั้นก็จะเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรแห่งมนุษย์ที่เรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวและชัดเจนที่สุดอีกด้วย