Slider
ดูหนังเอเชีย

7 กล้องฟิล์มแนะนำ สำหรับมือใหม่หัดเล่น มีตัวไหนน่าโดนบ้าง?

แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่กล้องฟิล์มก็เป็นอะไรที่ยังคงฮิตอยู่เสมอ เพราะเวลาถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์มตอนได้เห็นรูปคือดีมากจริง ๆ บอกเลยว่าของมันต้องมี วันนี้เรารวม 7 กล้องฟิล์มงานดีมาให้สาว Hipster มือใหม่ได้เลือกสอยกัน !

กล้องฟิล์ม LC-A Lomo 

เปิดด้วยกล้องฟิล์ม LC-A Lomo ที่นิยมในหมู่วัยรุ่นกันเลยดีกว่า ตัวกล้องมีปุ่มฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนด้วย Concept Point and Shoot ทำให้เราไม่ต้องคิดอะไรเลยนอกจากเลือกมุมถ่ายรูปอย่างเดียว ตัวกล้องให้ภาพที่เป็นเอกลักษณ์ สีสด ๆ คอนทราสจัดจ้าน ทำให้เป็นที่นิยมกันทั่วโลก มือใหม่ไม่ต้องห่วงนะคะ เนื่องจากเค้าป็นกล้องฟิล์ม แบบ Point and Shoot ใช้งานง่ายถึงง่ายมากกก ใครชอบฟิล์มสีสดไปกดสั่งกันเถอะ !

จุดเด่น :

ตัวกล้องมีความทนทาน ขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาง่าย
ใช้ถ่ายตอนไหนก็ได้ ทั้งกลางวันและกลางคืน ความมืดไม่ทำให้สีดร็อปลง
โหมดโฟกัสเป็นแบบกะ ระยะ 0.8 เมตร, 1.5 เมตร, 3 เมตร และ อินฟินิตี้
กล้องเป็นเลนส์ Fix  Minitar 32mm f/2.8
ราคาประมาณ : 3,990 บาท

กล้องฟิล์ม Nikon FG

กล้อง Nikon FG เป็นกล้องฟิล์มรุ่นเล็กที่เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นของกล้องฟิล์มรุ่นใหญ่ กล้องฟิล์มรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเป็น Generation แทนที่ Nikon EM ซึ่งเป็นกล้องฟิล์มในระบบผู้ใช้ทั่วไปเหมือนกัน ถือว่าเป็นกล้องฟิล์มประเภท SLR ที่เล็กที่สุดแล้วในไลน์การผลิตของ Nikon เลยก็ว่าได้ สำหรับมือใหม่หัดถ่ายไม่ต้องกังวลว่ากล้องรุ่นนี้จะใช้งานยากนะคะ บอกเลยว่าตัวกล้องมีฟังก์ชั่นครบ ใช้ง่ายงาน ถ่ายได้ไม่ต้องกลัวรูปเสียจ้าาา

จุดเด่น :

ตัวกล้องมีระบบออโต้ที่ชาญฉลาด
หากต้องเพิ่มแสงแค่กดปรับรูรับแสง แล้วกล้องจะเลือกสปีดชัตเตอร์ที่เหมาะสมให้
มีเสียงเตือนเมื่อสปีดชัตเตอร์ช้า เพื่อให้เราระวังความสั่นไหวระหว่างถ่ายรูป
ราคาประมาณ : 5,590 บาท

กล้องฟิล์ม Pentax MX 

มาดูกล้องฟิล์มที่เหมาะกับผู้หญิงแบบเรา ๆ กันหน่อยดีกว่า กล้องฟิล์ม Pentax MX ซีรีส์ M กล้องรุ่นนี้เปิดตัวในปี 1976 พร้อมกับ ME ในยุคนั้น ซึ่งตอนนั้นเทรนด์กล้องเล็ก ๆ กำลังมาแรงเลยค่ะ ตัวกล้องสามารถคอนโทรลสปีดชัตเตอร์และรูรับแสงได้เอง และกล้องใช้แบต 1.5V LR44 หาได้ไม่ยาก ที่บอกว่าเหมาะกับผู้หญิงเพราะตัวกล้องน้ำหนักเบา มีขนาดเล็ก พกพาง่ายไม่เกะกะนั่นเองง

จุดเด่น :

เรื่องความเล็กของกล้อง ทำให้พกพาง่าย มีความคล่องตัวสูง เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนผลัดกันถ่ายได้สบาย
ปรับสปีดชัตเตอร์และรูรับแสงได้ตามความต้องการ
ตัวกล้องสามารถตั้งเวลาถ่ายรูปได้
ราคาประมาณ : 5,890 บาท

กล้องฟิล์ม Canon AE-1 Program 

กล้องฟิล์ม Canon AE-1 Program เริ่มผลิตเมื่อปี 1981 เป็นรุ่นหลังต่อจาก AE-1 ทั้งคู่เป็นกล้องกลไกบวกชัตเตอร์ไฟฟ้า ถ้าถ่านหมดก็จะกดชัตเตอร์ไม่ได้ กล้องรุ่นนี้ใช้เลนส์เม้าท์ FD ทำให้เลนส์ราคาค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับ OM / Nikon F กล้องรุ่นนี้ใช้งานง่าย มีโหมดให้เลือกใช้ ตั้งแต่ กึ่งออโต้ จนถึง Full Manual เลยจ้าา โดยเฉพาะโหมด Program เป็นโหมดออโต้ที่มีความฉลาดสามารถวัดแสงได้อย่างแม่นยำ ทำให้การถ่ายภาพนั้นเป็นเรื่องง่ายไปเลย

จุดเด่น :

View Finder ค่อนข้างสว่าง
ราคาเลนส์ถูก (เหมาะสำหรับผู้มี Mirror Less สามารถนำเลนส์ต่อ Adapter ใช้ได้เลย)
ฟังก์ชั่นใช้งานง่ายเหมาะสำหรับมือใหม่
ราคาประมาณ : 6,390 บาท

 

กล้องฟิล์ม Minolta Hi-Matic 7 Sii 

ตามมาด้วยกล้องฟิล์มขนาดเล็ก พกพาสะดวกอีกตัวกับกล้อง Minolta HI-MATIC 7S II กล้องฟิล์มรุ่นนี้เคยเป็นกล้องฟิล์ม Rangfinder ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น  โดยพื้นฐานเค้าเป็นกล้องแมนนวล ที่มีฟังก์ชั่นครบครับ ใช้ง่าย ซึ่งตัวเลนส์ที่ติดมากับกล้องเป็นเลนส์ไวต่อแสง คุณภาพสูง เหมาะมากกับการถ่ายรูปแนวสตรีท บอกเลยด้วยหน้าตาที่ถูกออกแบบมาเป็นลุควินเทจแท้ ๆ ทำให้เป็นกล้องที่ครองใจผู้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นก็ใช้กล้องตัวนี้ได้นะคะ

จุดเด่น :

โหมด Manual เลือกปรับได้ทั้ง รูรับแสง และ ความเร็วสปีดชัตเตอร์
โหมด Shutter Priority เลือกปรับความเร็วสปีดชัตเตอร์ กล้องจะเลือกรูรับแสงและความไวที่เหมาะสมให้เอง
เลนส์  Rokkor 40mm f1.7 คุณภาพดี
ราคาประมาณ : 7,490 บาท

 

กล้องฟิล์ม Olympus 35SP

กล้องฟิล์ม Olympus 35SP รุ่นนี้ใช้เลนส์ Zuiko 42mm ที่มี F Stop กว้างถึง f1.7 ตัวกล้องมีระบบชดเชยแสงเวลาถ่ายที่มืด ๆ นี่ไม่ต้องห่วงยังไงก็ออกมาสวยแน่นอนค่ะ นอกจากนี้กล้องยังโหมด Shutter Priority, Full Manual และ Full Auto ตอบสนองทุกการใช้งาน ถ้าใครยังไม่กล้าปรับแสงเอง ลองเล่นโหมด Full Auto ไปเลยค่ะใช้ง่ายดี ที่สำคัญกล้องตัวนี้มีระบบวัดแสงสุดล้ำ คือระบบวัดแสงแบบ Spot หรือเฉพาะจุดได้ ในกรณีที่เจอสภาพแสงที่ซับซ้อนกล้องตัวนี้คือเอาอยู่

จุดเด่น :

กล้องฟิล์มสามารถถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอได้
มีระบบชัตเตอร์ B และระบบ Self Timer (ตั้งเวลาถ่ายได้)
กล้องสามารถทำงานในระบบ Manual ได้ หมายความต่อให้ไม่มีแบตเตอรี่เราก็ยังสามารถถ่ายรูปได้
ราคาประมาณ : 8,750 บาท

 

กล้องฟิล์ม Rollei 35 SE

จบด้วยกล้องฟิล์มราคาหนัก ๆ จาก Rollei 35 SE กันค่ะ กล้อง Rollei 35 เป็นกล้องฟิล์ม Compact สัญชาติเยอรมัน ถูกออกแบบให้อยู่ในฟอร์ตแมต 135 ออกแบบโดย Heinz Waaske เจ้าพ่อกล้องฟิล์ม Compact นั่นเอง ตัวกล้องเวลาถ่ายรูปเค้าใช้ระบบแบบ กะระยะ องค์ประกอบของภาพที่ได้จะเล็กกว่าที่ตามองเห็น ฉะนั้นเวลาจะถ่ายอะไรเราต้องวัดระยะของเรากับวัตถุสิ่งนั้นดี ๆ ส่วนระบบวัดแสงของกล้องตัวนี้จะแสดงสถานะโดยหลอดไฟ LED ในช่องมองทางด้านขาวมือ ถ้าอยากได้ภาพแสงสวยจะต้องมีไฟสีเขียวขึ้นตรงกลางเท่านั้นนะคะ

จุดเด่น :

ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
ระบบวัดแสงจะแสดงผลด้วยไฟ LED
กล้องสามารถทำงานในระบบ Manual ได้ หมายความต่อให้ไม่มีแบตเตอรี่เราก็ยังสามารถถ่ายรูปได้
ราคาประมาณ : 11,500 บาท

 

Olympus XA 

ตัวเล็กสเปคเทพอีกหนึ่งตัว Olympus XA ที่ช่างภาพสายสตรีทชื่นชอบกัน เพราะน้องตัวเล็กมาก เล็กเท่าฝ่ามือเลยก็ว่าได้ ทำให้ใช้ง่ายถ่ายคล่อง มากับเลนส์ระยะ 35 mm f/2.8 รู้รับแสงกว้าง ๆ ถ่ายเพลินละลายหลังได้อีกด้วย จุดเด่นของตัวนี้คือเราเลือกปรับรูรับแสงเองได้ กล้องก็จะปรับความเร็วชัตเตอร์ให้เราเอง ซึ่งกล้องฟิล์มในตระกูล XA ก็น่าเล่นทุกตัว แต่ละตัวก็มีฟังก์ชันแตกต่างกันไม่มาก ขึ้นอยู่กับที่เราชอบเลย รับรองว่าได้รูปสวย มีคุณภาพดีแน่นอน

จุดเด่น :

ขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาง่าย
เลือกปรับรูรับแสงเองได้ กล้องก็จะปรับความเร็วชัตเตอร์ให้เอง
เลนส์ระยะ 35 mm f/2.8 รู้รับแสงกว้าง ๆ ถ่ายเพลินละลายหลังได้
ราคาประมาณ : 2,000-6,000 บาท

 

Leica Mini Lux

มาถึงกล้องพรีเมียมคอมแพค Leica Mini Lux เจ้าจุดแดงสุดหล่อ กล้องในฝันของใครหลายคน มากับเลนส์ 40 mm f/2.4 เรื่องคุณภาพไม่ต้องพูดถึง รู้กันดีว่าคุณภาพเยี่ยม ถ่ายคม ให้โทนสีสวยตามสไตล์ไลก้า นอกจากระบบออโต้โฟกัสแล้วก็ยังสามารถปรับรูรับแสง และ Manual Focus ได้เอง แต่ข้อเสียก็คือมีช่องมองภาพที่เล็กมากก ใครไม่ติดตรงนี้ก็ไปสอยมาถ่ายแบบเท่ ๆ คูล ๆ

จุดเด่น :

ขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาง่าย
ถ่ายคม ให้โทนสีสวย
ราคา : 17,000-24,000 บาท

 

Contax T2

กล้องพรีเมียมคอมแพคตัวเทพอีกหนึ่งตัว Contax T2 คู่แข่งตัวเก่งของเจ้าไลก้า มากับเลนส์ Carl Zeiss Sonnar 38mm f/2.8 ให้ภาพที่คม เก็บรายละเอียดภาพได้ดี มีโทนสีสวยเฉพาะตัว ดีไซน์ออกมาได้หล่อ และดูทันสมัย บอกเลยว่ามีสเปคที่ใกล้เคียงกับเจ้าไลก้าเลย แตกต่างกันแค่บางจุดเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และความชอบส่วนตัวของผู้ใช้ ชอบตัวไหนก็ไปจัดเลยจ้า

จุดเด่น :

ให้ภาพที่คม เก็บรายละเอียดภาพได้ดี
มีโทนสีสวยเฉพาะตัว
ราคา : 19,000-40,000 บาท

10 กล้อง Mirrorless ประจำปี 2020

เราจดจำเหตุการณ์ความประทับใจต่างๆได้ชัดเจนจากภาพถ่าย แต่เรารู้สึกมันจากสมองและหัวใจ ถ้าหากขาดภาพที่เป็นรูปธรรมไป ความรู้สึกอาจจะไม่ชัดเจนเท่ามีภาพถ่าย มนุษย์จึงคิดค้นประดิษฐ์สิ่งที่เรียกว่า ‘กล้องถ่ายภาพ’ ขึ้น ในสมัยก่อนการที่จะจดจำจากรึกเป็นภาพถ่ายลงไปบนแผ่นฟิล์มขั้นตอนแสนยุ่งยากและใช้เงินพอสมควร เทคโนโลยีทำให้ยุคสมัยนี้ การบันทึกภาพความทรงจำส่วนตัวของเราง่ายขึ้น และรวดเร็วมากขึ้น

จากที่เมื่อก่อนต้องแบกกล้องตัวฟิล์มตัวใหญ่ ก็มาสู่กล้องดิจิตอลตัวเล็กลงหน่อย และพัฒนามากขึ้นไปอีก จากกล้อง DSLR มาสู่ Mirrorless ที่ขนาดเล็กลง พกพาสะดวกขึ้น น้ำหนักเบาคล้องคอไปไหนได้ง่าย และแถมท้ายมาด้วยดีไซน์รูปลักษณ์ที่ออกแบบมาให้เข้ากับยุคสมัย และวันนี้เราจะพามาทำความรู้จักเจ้ากล้อง Mirrorless ประจำปี 2019 กัน ฟังก์ชันและความน่ารักของเจ้ากล้องเหล่านี้อาจจะทำให้คุณอยากออกไปสร้างประสบการณ์ความประทับใจส่วนตัวเพิ่ม

ก่อนจะไปถึง 10 กล้อง Mirrorless เรามาทำความรู้จักประเภทของกล้องกันเล็กน้อย เพื่อให้เห็นภาพกว้างๆ ที่ใกล้เคียงกันก่อน โดยสามารถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ คือ กล้องดิจิตอลที่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ กับ กล้องดิจิตอลที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้

โดยไอ้เจ้าที่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้จะเรียกว่า กล้อง Compact หรือก็คือกล้องในโทรศัพท์มือถือที่เราใช้อยู่นั่นเอง ข้อดีของเจ้ากล้อง Compact นี้คือมีขนาดที่เล็ก กระทัดรัดพกพาง่าย ใช้งานได้ง่าย ไม่มีกลไกลซับซ้อน ข้อเสียคือข้อจำกัดของเลนส์ที่เปลี่ยนไม่ได้ ทำให้มุมมองการถ่ายภาพ และภาพที่ได้มาจะเหมือนกันหมด

ส่วนกล้องดิจิตอลที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ก็ยังแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆในปัจจุบัน คือ กล้อง DSLR  และ Mirrorless ที่เราจะพูดถึงนั่นเอง โดยเจ้ากล้อง DSLR จะมีความแตกต่างกับกล้อง Mirrorless ตรงที่ลักษณะกลไกการทำงานของกล้อง กล้อง DSLR จะรับภาพจากเลนส์ สะท้อนกระจกขึ้นมาบนปริซึม ทำให้ภาพแสดงบนจอภาพให้ผู้ถ่ายภาพได้มองเห็น ส่วนกล้อง Mirrorless จะไม่มีชุดกระจกสะท้อนภาพตัวนี้ แต่จะรับภาพผ่านเลนส์ไปที่เซ็นเซอร์ของกล้งอ และสะท้อนภาพแสดงบนหน้าจอ LCD ได้เลย เมื่อลดอุปกรณ์ที่ประกอบภายในกล้องออกไป นั่นจึงทำให้กล้อง Mirrorless มีขนาดที่เล็ก กระทัดรัด แถมถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ จึงทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ของมือสมัครเล่น หรือผู้เริ่มต้นถ่ายรูป

Sony A9

กล้องMirrorlessที่ดีที่สุด

มาถึงสุดยอดของ Mirrorless ณ ตอนนี้ของค่าย Sony ที่จัดอัดทุกอย่างที่ดีที่เทพใส่ไว้ในกล้อง Mirrorless ตัวเล็กอย่าง Sony A9 ที่เริ่มต้นด้วยการการันตีรางวัล กล้องยอดเยี่ยมแห่งปี จาก EISA ถือเป็นรางวัลเกียรติยศของวงการกล้องถ่ายภาพ แค่เปิดด้วยรางวัลขนาดนี้ความอยากกิเลสก็บังเกิดแล้ว

มาดูกันถึงสิ่งที่ทำให้ได้รางวัลระดับนี้มากัน เริ่มต้นด้วยใช้เซ็นเซอร์ CMOS แบบ Full Frame คือได้ภาพใหญ่ไม่ถูกตัดอย่างแน่นอน ช่องมองภาพแบบ EVF ที่ให้ภาพเหมือนจริงก่อนถ่ายภาพจริง จอทัชสกรีน ถ่ายภาพได้ต่อเนื่องสูงสุด 20 ภาพต่อวินาที ความเร็วชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ 1/32000 วินาที โดยการติดตั้งระบบชัตเตอร์ 2 ระบบ ด้วยกันคือ ระบบชัตเตอร์ที่เป็นกลไก (Mechanic) และระบบชัตเตอร์แบบ Electronic สามารถเลือกใช้งานได้ในเมนูกล้อง ว่าจะเลือกใช้แบบไหน หรือ จะเลือกใช้แบบ Auto ทำงานร่วมกัน นี่ซิถึงจะเหมาะสมกับความเทพ แต่ยังไม่จบแค่นั้น

ค่าความไวแสงสามารถดันได้สูงถึง 204,800 (แบบขยายแล้ว) เรียกว่าสามารถถ่ายได้ทุกสภาแสงที่เราไป ที่ทำได้แบบนี้เพราะมีชิปประมวลผลความเร็วสูง และประมวลภาพถ่ายด้วยเทคโนโลยี BIONZ X โฟกัสอัตโนมัติสามารถทำได้ถึง 5 ขั้น เพื่อจับโฟกัสของวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว จับโฟกัสได้ 693 จุด หรือสร้างความหนาแน่นของการโฟกัสได้ ร่วมกับ Contrast Detection ที่มีพื้นที่โฟกัสมากถึง 25 พื้นที่ ในการตรวจจับ Contrast ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การจับภาพแบบ Fast Hybrid AF System ทำให้จับสีหน้าดวงตาได้แม่นยำ ทำงานเงียบมาก ด้วยระบบกันสั่นแบบ 5 แกน

โอนถ่ายภาพและวีดีโอผ่าน FTP ผ่านระบบ LAN ทำมาสำหรับการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ หรือจะใช้ Wifi ปกติก็มี หรือจะควบคุมกล้องผ่านแอพในโทรศัพท์ก็ยังทำได้ พร้อมกับถ่ายวีดีโอคุณภาพ Full HD 4K

ที่เล่าคุณสมบัติมา Sony A9 ต้องถือว่าเป็นกล้องระดับมืออาชีพกล้องหนึ่งที่น่าใช้งาน ด้วยน้ำหนักกล้องแม้จะรวมเลนส์อีก 3 ตัวแล้ว ก็ยังมีน้ำหนักที่ออกภาคสนามได้อย่างสบายๆ ไม่เป็นภาระเมื่อเทียบกับน้ำหนักของ DSLR ความแข็งแรงทนทานของกล้องทนทานต่อการใช้งานหนักได้ดี ระบบโฟกัสรวดเร็วทันใจ โฟกัสติดตามวัตถุได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ด้วยความเร็วสูง มั่นใจได้ว่า จะไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของคุณ และแถมท้ายด้วย ภาพคมชัด สีสดใส ถ่ายอะไรก็ดูสมจริงดั่งตาเห็น


 

Fujifilm X-A3

กล้องMirrorlessยอดฮิต

Fujifilm เคยสร้างปรากฏการณ์มาแล้วใน Fujifilm X-A2 ที่ทำให้ยอดขายกล้อง Mirrorless รุ่นที่ใหญ่กว่าจากค่ายอื่นเงียบไปตามๆกัน และรอบนี้ก็จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งกับ Fujifilm X-A3 ที่ดีไซน์มาเอาใจแฟนๆชาวไทยที่รักการการเซลฟี่ เริ่มต้นจากจอพับและทัชสกรีนได้ พร้อมกับน้ำหนักเพียง 339g ให้สาวๆถือถ่ายรูปตัวเองได้แบบไม่ต้องง้อใคร เซ็นเซอร์รับภาพแบบ APS-C CMOS ความละเอียด 24.3 ล้านพิกเซล หรือคือการชัดแบบเหลือๆให้เฟสบุ๊คต้องหันมามองกันเลยทีเดียว มากับจุดโฟกัสกว่า 77จุด ทำให้ถ่ายภาพในที่มืด หรือทำหน้าชัดหลังเบลอได้ดี มีชัตเตอร์แบบไฟฟ้า (Electronic Shutter) ที่เร็วได้ถึง 1/32000 วินาที ทำให้ใครที่อยากถ่ายรูปกับแดดจ้าทำได้ง่ายและยังคงละลายหลังได้อยู่

สามารถถ่ายวีดีโอแบบ Full HD และมีกันสั่น 5 แกน มี Wifi ให้สามารถส่งภาพและสั่งงานผ่านแอพได้ กดชัตเตอร์ หรือเปลี่ยนค่าต่างๆ และสั่งพิมพ์ภาพออกไปที่ Instax Share ได้จากตัวกล้องและสมาทโฟน ถ่ายเสร็จปริ้นแล้วส่งให้คนที่คุณแอบชอบได้เลย ไม่ต้องกลัวแบตหมดแล้วไม่มีที่ชาร์จเพราะเจ้า X-A3 สามารถชาร์จไฟได้จาก Power Bank

มาดูจุดขายหลักๆของสายเซลฟี่กันมั่ง แค่ยิ้มกล้องก็ถ่ายเอง โดยจับจากโครงสร้างใบหน้า ไม่ต้องเสียสมาธิเอานิ้วมากดกล้องเลย หรือจะเป็น โหมด Portrait Enchancer ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียน สามารถปรับได้ 3 ระดับ

หรือจะเป็น Advanced Filter 11 รูปแบบ โดยแบบที่เพิ่มขึ้นก็คือ Star Filter ที่ถ่ายแล้วจะสร้างประกายแฉกในตำแหน่งที่มีแสงสะท้อนเกิดขึ้น ไม่ได้เกิดแบบไม่มีเหตุมาผลนะ ท่านที่ยังชื่นชอบถ่ายภาพพอร์ตเทรทในความฝันก็ยังมี Soft Focus ให้เลือกใช้งานสวยเหมือนเดิม แต่ถ้าบอกว่าขอปรับแค่โทนสีก็พอก็ต้องไปปรับเลือกใน Film Simulation ที่ทางฟูจิฟิล์มมีความชำนาญสูงนำทักษะในการผลิตฟิล์มถ่ายภาพมาสร้างสรรค์เป็นซอฟท์แวร์ได้อย่างเลอค่าทั้งภาพสี และภาพขาวดำ อาทิ Astia, Provia, Velvia, Black&White R Filter ภาพที่แสดงผลในจอความละเอียด1.04ล้านจุดนั้นคมชัดมาก
ถ้าจะให้สรุปความรู้สึกสำหรับ X-A3 น่าจะเป็นการเพิ่มเติมความเป็นเซลฟี่เข้ามาให้เหมาะกับคนไทย และรักษาคุณภาพความสดใสของๆเดิมเอาไว้ได้อย่างครบครัน ไม่ต้องไปตามหาแอพกันให้วุ่นวายมีเจ้า X-A3 ตัวเดียวก็ครบแล้ว


 

Panasonic Lumix DMC-GX85

กล้องMirrorlessขายดี

ต่อมากันที่ Panasonic Lumix DMC-GX85 ดีไซน์กระทัดรัดแต่ครบครันสำหรับมือใหม่ที่อยากเล่นอะไรเยอะๆ อาจจะเป็นปัญหาเล็กน้อยสำหรับสายเซลฟี่เพราะจอทัชสกรีน พับได้แต่ไม่มากเท่ารุ่นอื่นๆ แต่ก็มีสิ่งที่มาทดแทนได้หลายอย่าง ไล่มาตั้งแต่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ดูเหมือนน้อยแต่ก็มากพอสำหรับเฟสบุ๊ค ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดที่ 1/4000 วินาที จุดโฟกัสกว่า 49 จุด ถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยโมหด AF-S ได้ 10 ภาพต่อวินาที มี Wifi ในตัวให้สามารถส่งภาพหลังกล้องได้เลย พร้อมกับกันสั่น 5 แกน ให้คุณมั่นใจว่าจะได้ภาพไม่สั่นไหวแน่นอน

ถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้อย่างมืออาชีพ หรือจะใช้ฟังก์ชัน Post Focus ที่ให้เราถ่ายภาพก่อนแล้วมาปรับตำแหน่งโฟกัสได้ภายหลัง ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะ Panasonic Lumix DMC-GX85 ได้จัด Filter การถ่ายภาพมาให้คุณมากถึง 22 แบบ เลือกกันให้ตาลายกันไปเลย ขอเล่าถึง 2 แบบเด่นๆ

โหมด L Monochrome ซึ่งเป็นภาพสไตล์ขาวดำอาร์ทๆแบบพิเศษที่แตกต่างจาก monochrome ปกติเป็นรูปขาวดำแบบ Low Contrast ทำให้ดูภาพแล้วรู้สึกกลมกล่อม ไม่เหมือนขาวดำทั่วไป หรือจะเป็นโหมดโฟกัสเงียบ กล้อง Mirrorless ยุคหลังๆมักจะมากับฟีเจอร์นี้ซึ่งหากเป็นเหมือนก่อนโหมดนี้ทำได้เพียงแค่ลดเสียงเท่านั้นแต่ Panasonic Lumix GX85 ตัวนี้ สามารถปิดเสียงชัตเตอร์ได้ 100% นั้นคือไม่มีเสียงเลย มีประโยชน์มากๆในที่งดใช้เสียง


 

Panasonic LUMIX GF9

กล้องMirrorlessราคาถูก

มาถึงกล้องที่เบาและเล็กอีกรุ่น Panasonic LUMIX GF9 ด้วยน้ำหนักแค่ 269g ใส่ในกระเป๋าได้สบายๆจนแทบไม่รู้สึก ถึงจะเบาแต่ก็มาพร้อมกับความละเอียดของภาพ 16 ล้านพิกเซล มี Wifi สามารถใช้ Micro SD Card ได้ ค่าความไวแสงอยู่ที่ 200 – 25600 พร้อมกับระบบประมวลผล Venus Egine ทำให้ถ่ายภาพความเร็วสูงได้ ด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่สูงถึง 1/16,000 หรือจะเป็นจุดโฟกัส 49 จุด ถ่ายภาพต่อเนื่องแบบปกติได้ 5 ภาพต่อวินาที และถ่ายด้วยชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ได้ 9 ภาพต่อวินาที
ฟังก์ชัน 4K Photo นี่เป็นฟังก์ชั่นที่มีมานานแสนนานในกล้อง Lumix ทุกซีรีส์เลย ใครที่เคยใช้กล้องยี่ห้อนี้คงจะคุ้นเคยดี แต่ขออธิบายคร่าวๆเผื่อมีคนไม่รู้นะครับฟังก์ชั่น 4K Photo เป็นฟังก์ชั่นที่กล้องเราจะถ่ายวิดีโอ4Kมา แล้วให้เราเลือกว่าจะเอาเฟรมไหนจากวิดีโอที่เราถ่าย คือวิดีโอมันละเอียด แม้การแคปภาพๆนึงมาใช้มันก็ยังให้รายละเอียดภาพที่ดีอยู่ส่วน Post Focus เนี่ยเป็นฟังก์ชั่นที่กล้องเราจะถ่ายวิดีโอมาเหมือนกัน แต่ระหว่างที่ถ่าย กล้องจะปรับโฟกัสตั้งแต่ระยะใกล้สุดไปจนถึงไกลสุด เพื่อให้เราสามารถมาแคปเลือกจุดโฟกัสเอาทีหลังได้

นั่นเป็นคุณสมบัติทั่วไปมาดูความสาวของตัวนี้กันบ้างดีกว่า เจ้า LUMIX GF9 มาพร้อมฟังก์ชันปรับหน้าเนียนได้มากกว่า 10 ระดับ หรือจะเป็นฟังก์ชันแต่งหน้าแบบ Beauty Retouch ที่ทำได้รวดเร็ว โดยเราสามารถปรับใบหน้าได้ตั้งแต่การทำหน้าให้เรียว เติมสีปาก ขัดฟันขาว เปลี่ยนสีรองพื้น หรือจะเติมอายไลน์เนอร์ก็ยังได้ เรียกว่าหน้าสดไม่กลัวถ้ามีเจ้า LUMIX GF9 อยู่ในมือ


 

Fujifilm X-T20

กล้องMirrorlessใช้งานดี

ขยับมาที่ตัวที่น่าจะเหมาะกับคนที่อยากลองเล่นระดับกึ่งอาชีพขึ้นมาอีกขั้นอย่างเจ้า Fujifilm X-T20 ที่เป็นกึ่งโปรแต่ก็ยังตอบสนองกับมือใหม่ได้อยู่ เพราะเจ้าตัวกล้องมันทัชสกรีนและพับจอได้ ช่องมองภาพแบบ OLED Electronic View Finder (OLED EVF) เห้นภาพจริงก่อนถ่ายแถมไม่เจ็บตาด้วย ตัวกล้องเองมาพร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ X-Trans CMOS ll ขนาด APS-C ความละเอียดมากมายถึง 24 ล้านพิกเซล และมีจุดโฟกัสมากถึง 325 จุด หรือถ้าเอาง่ายๆ ภาษาคนธรรมดาคือเพิ่มความละเอียดอ่อนของการตั้งค่าการโฟกัสวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ โฟกัสได้เร็วด้วย ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดแบบปกติได้ 8 ภาพต่อวินาที และยังปรับเป็น Electronic Shutter ที่ถ่ายภาพได้ต่อเนื่องสูงสุด 14 ภาพต่อวินาที ทำให้เราสามารถถ่ายภาพทุกขณะได้อย่างไม่พลาดและเข้าโฟกัสทั้งหมด

ถ้าใครที่ชอบการไปเที่ยว หรือร้านกาแฟแล้วอยากโชว์ความเป็น Retro ในภาพของคุณ X-T20 ก็มี Film Stimulation สามารถโชว์โทนสีได้ไลฟ์บน LCD และจอ Viewfinder ได้ทันที ไม่ต้องไปเสียเวลาตกแต่งเพิ่มภายหลัง

ถ่ายวีดีโอด้วยคุณภาพ Full HD 4K ที่ใช้วงแหวนหมุนเปลี่ยนโหมดจากภาพนิ่งเป็นวีดีโอได้ อาจจะเสียเวลานิดนึงในการปรับ แต่เราสามารถต่างค่าปุ่มกดต่างๆใหม่ให้เป็นปุ่มลัดได้

ฟูจิยังคงเน้นการรับแสงสีผิวนำมาก่อน เพื่อไม่ให้ภาพที่ได้มาส้มหรือผิดเพี้ยนมากเกินกว่าความเป็นจริงไป มีโหมดถ่ายพาโนรามา ให้เราได้ลองถ่ายความยิ่งใหญ่ของที่ต่างๆ หรือจะเป็นโหมดซ้อนภาพแบบ Double Exposure ให้เราทำได้ตั้งแต่หลังกล้องแล้วโพสอวดเพื่อนๆได้เลย


 

Panasonic LUMIX GF10

กล้องMirrorlessถ่ายสวยๆ

มาฝั่ง Panasonic Lumix GF-10 กันบ้างที่ออกมาเอาใจสาวๆกันโดยตรง เริ่มจากน้ำหนักที่เบาเพียง 337g แม้รูปร่างหน้าตาจะคล้ายกับ GF9 แต่เพิ่มกริ๊ปช่วยจับเข้ามาทำให้ใช้งานง่ายขึ้น จอสามารถพับมาถ่ายตัวเองได้ มาพร้อมกับโหมดบิวตี้ ที่ปรับความบิวตี้ได้มากถึง 10 ระดับด้วยกัน แถมหน้าเนียนตาโตแบบไม่เป็นวุ่นด้วยนะ หรือจะเซลฟี่ตอนกลางคืนก็มีโหมด Night Mode Selfie จะทำให้สาวๆถ่ายตัวเองแบบเรียบเนียนยามกลางคืน หรือจะถ้าถ่ายรูปมาแล้วยังโฟกัสไม่ถูกใจก็สามารถปรับโฟกัสทีหลังได้อีก

อีกฟังก์ชันที่น่สนใจ ลั่นชัตเตอร์ได้เอง 3 แบบด้วย Face Shutter เอามือบังหน้าแล้วเอาลง ถ่ายต่อเนื่อง 4 ภาพ ได้อารมณ์เดียวกับไปถ่ายกับตู้สติ๊กเกอร์เลย หรือ Buddy Shutter ถ่ายเซลฟี่แบบคู่ เพียงแค่เอาหัวมาใกล้กัน กล้องก็ถ่ายได้เลย สะดวกมากๆ หรือจะกดสั่งถ่ายรูปจากมือถือก้ได้

ถ้าอยากถ่ายวีดีอก็ทำได้ด้วยความคมชัดระดับ 4K แถมเวลาเปลี่ยนจุดโฟกัสเจ้า GF10 ก็ทำแบบนุ่มนวลจนเราแทบไม่รู้ตัวเลย แบตก้อนกะทันรัดแม้จะหมดไวแต่ก็ชาร์จผ่าน Power bank ได้ และเอกลักษณ์ที่ยังคงเอาไว้และดีขึ้นคือสีของสกิลโทนของคนเรา จะออกไปทางละมุนๆแบบธรรมชาติ


 

Fujifilm X-T100

กล้องMirrorlessใช้งานง่าย

ข้ามมาฝั่ง Fujifilm กันบ้างที่ไม่ได้มีดีแค่กล้องฟรุ้งฟริ้ง ยังมีตัวเท่ๆอีกตัวอย่างเจ้า Fujifilm X-T100 ที่ถูกออกแบบดีไซน์มาเหมือนกล้องรุ่นคลาสสิก แถมมีหลายสีให้เลือกอีกด้วย มาพร้อมกับน้ำหนักเบาจะคล้องคอเท่ๆไปไหนก็ได้ ช่องมองภาพแบบ OLED Electronic View Finder (OLED EVF) ที่ให้ความละเอียดถึง 2.3 ล้านพิกเซล เห็นภาพสวยเหมือนจริงอย่างที่ตาเห็นก่อนลั่นชัตเตอร์จริง คุณภาพเทียบเท่ากับรุ่นพี่อย่าง Fujifilm X-T20 ด้วย ความละเอียดของภาพที่ได้จากเซ็นเซอร์มากถึง 24 ล้านพิกเซล พร้อมกับจุดโฟกัส 91 จุด ที่โฟกัสด้วยระบบ Hybrid Af

ยังไม่หมดเท่านั้น ยังถ่ายภาพนิ่งแบบต่อเนื่องได้มากสุด 6 ภาพต่อวินาที หรือจะถ่ายด้วย 4K Burst Shooting ถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุด 15 ภาพต่อวิ เพื่อเราจะสามารถเลือกช็อตที่ดีที่สุดได้ มีความเร็วชัตเตอร์ปกติสูงถึง 1/4000 วินาที และสามารถเปลี่ยนเป็นซัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ได้ถึง 1/32,000 ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอกลางแดดประเทศไทยได้อย่างสบายๆ หรือถ้าต้องการถ่ายเซลตัวเองก็ทำได้ เพราะหน้าจอสามารถพับได้และบานพับค่อนข้างแข็งแรง พร้อมด้วยจอทัชสกรีนได้อีก มีกริ๊ปเสริมมาให้เราจับกล้องได้ถนัดมืออีก อะไรมันจะดีขนาดนั้น

หรือใครที่ต้องการถ่ายวีดีโอเจ้าตัวนี้ก็พร้อม เพราะถ่ายวีดีโอ 4K ได้นานถึง 30 MIN และปลดภัยด้วยปุ่มกดพิเศษที่จะไม่ทำให้เราพลาดไปกดอัดโดยไม่ตั้งใจ หรือถ้าเผลอสนุกใช้จนเพลินแบตใกล้หมดก็สามารถชาร์จแบตผ่าน Power Bank ได้ด้วย และพร้อมส่งรูปสวยๆผ่าน Wifi ได้ทันใจ เจ้า Fujifilm X-T100 เหมาะกับตากล้องหน้าใหม่ที่อยากทดลองทำอะไรหลายๆอย่าง และพร้อมจะพาคุณไปสู่กล้องตัวใหญ่กว่านี้ได้


 

Olympus OM-D E-M10 Mark lll

กล้องMirrorlessดิจิตอล

ใครที่เป็นสายเดินทางและอยากมีกล้องเล็กๆซักตัวติดไปด้วย Olympus OM-D E-M10 Mark lll น่าจะเหมาะอย่างมาก แค่เริ่มต้นมาราคาก็สบายกระเป๋าไปแล้ว 15,xxx มาพร้อมกับดีไซน์ตัวกล้องที่เท่มาก เอาไปวางตามที่ต่างๆก็คลูแล้ว ดีไซน์เท่น้ำหนักยังเบาอีกคล้องคอถ่ายรูปเช็คอินได้เลย ตัวเล็กแต่จับถนัดมือนะเพราะ Olympus ได้พัฒนากริ๊ปที่จับมาให้จับถนัดมือขึ้นเวลาถ่ายภาพ และไม่ต้องกลัวภาพสั่นไหวเพราะมีแกนกันสั่นที่ตัวกล้องถึง 5 แกน หมดปัญหาเวลาแสงน้อยๆแล้วลืมเอาขาตั้งไป หรืออยากเดินถ่ายวีดีโอแต่ไม่อยากให้ภาพสั่น เจ้า Olympus OM-D E-M10 Mark lll รองรับแล้ว เดินไม่สั่นแถมถ่ายวีดีโอ 4K 30p ได้อีกนะเออเพราะมีชิปประมวลผลแบบ TruePic VIII ที่ทำงานเร็วทำให้เราถ่ายวีดีโอได้ไม่สะดุด

หรือใครที่ชอบถ่ายภาพนิ่งเจ้าตัวนี้ก็ทำได้ไม่แพ้วีดีโอหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เริ่มจากมีช่องมองภาพแบบ EVF ที่ให้ภาพก่อนถ่ายได้สมจริง ถ่ายภาพต่อเนื่องได้มาสุด 8 ภาพต่อวินาที แถมมีจุดโฟกัสมากถึง 121 จุด เรียกว่าอะไรผ่านเข้ามาเราต้องจับภาพนั้นเข้าโฟกัสแน่นอน ปุ่มสัญลักษณ์ทำมาชัดเจนไม่ต้องมานั่งหาว่าปุ่มนี้ใช้ทำอะไร

มีโหมด Advanced Photo Mode เหมาะสำหรับมือใหม่ ใช้งานง่าย สามารถรับรู้ได้ ว่าเรากำลังถ่ายคน ถ่ายอาหาร ท้องฟ้า ภูเขา ทะเล และปรับค่าให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราถ่ายได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมๆ และโหมด New art filter bleach bypass เพิ่มเข้ามาจากเดิมที่มีเป็นสิบ art filter ตัวนี้ จะให้โทนภาพแนวๆ vintage cinema


Canon EOS M10

กล้องMirrorlessพกพาง่าย

แวะมาที่ค่ายชื่อดังที่ตากล้องทั้งมืออาชีพ มือสมัครเล่น หรือแม้แต่คนที่ไม่ได้เล่นกล้องก็ต้องรู้จักอย่าง Canon ที่ตอนนี้ไม่ได้เจาะตลาดกลุ่มมืออาชีพอย่างเดียว ขยับออกมาขายในตลาดของคนที่เล่นกล้อง Mirrorless ด้วย อาจจะเรียกว่าทำน้องเล็กอย่าง EOS M10 ออกมาเอาใจแฟนๆที่อยากลองเล่น Mirrorless ซักตัวในแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ

เป็นน้องเล็ก ราคาก็น่ารักไม่ถึง 20,000 นะจ๊ะสำหรับเจ้า EOS M10 ความละเอียดที่ให้มาก็สมราคาที่ 18 ล้านพิกเซล ไม่ได้สูงมากแต่ถือว่าพอดีแล้วสำหรับถ้าจะโพสลงโซเชียลมีเดีย จอสามารถพับมาถ่ายเซลฟี่ได้แถมมาด้วยระบบสัมผัสหน้าจอ มีออโต้โฟกัสมากถึง 49 จุด หรือใครอยากจะถ่ายวีดีโอรีวิวก็ทำได้ด้วยคุณภาพ HD ถ่ายในที่แสงน้อยได้สบายๆ เพราะมีค่าความไวแสงหรือ ISO ที่สามารถดันสูงสุดได้ 25,600 เพราะมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ CMOS ขนาด APS-C หรือแปลง่ายๆว่า เซ็นเซอร์น้องใหญ่กว่าคู่แข่งที่ขนาดเท่ากัน และถ่ายรูปแบบหน้าชัดหลังละลายได้ง่ายกว่า

ไม่เท่านั้นยังมีโหมด Creative Assist เป็นโหมดช่วยถ่ายภาพ สำหรับสาวๆที่อยากถ่ายรูปสวยๆแต่ไม่อยากต้องมานั่งจำอะไรเยอะแยะ เพราะเจ้าโหมดนี้ เราสามารถเพิ่มความสว่าง หน้าชัดหลังเบลอ หรือปรับสีได้ สะดวกจริงๆ ข้อติดนิดนึงสำหรับเจ้า M10 ตัวนี้คือเวลาจะหมุนปรับตัวเลนส์ต้องปลดล็อคเลนส์ก่อนจึงจะถ่ายได้ เพราะค่ายได้เป็นห่วงความปลอดภัยเลยทำคุณสมบัตินี้ออกมาจ้า แถมอีกนิดเห็นตัวเล็กๆแบบนี้ แบตอึดไม่เบานะจ๊ะ


Xiaomi YI M1

ซื้อกล้องMirrorless

ถ้าคุณกำลังมองหากล้อง Mirrorless ซักตัวสำหรับมาถ่ายรูปเล่นๆ ราคาไม่แพงเจ้า YI M1 ตัวนี้น่าจะตอบสนองความต้องการได้ เพราะราคามันไม่ถึงหมื่นด้วยซ้ำ กับน่าตารูปลักษณ์ที่ดูคล้ายกับรุ่นพี่ใหญ่ค่ายเยอรมันอักษรสีแดงอย่าง Lica แถมมาพร้อมกับเซ็นเซอร์รุ่นเดียวกับ Sony พร้อมกับใช้เลนส์ของค่ายอย่าง Panasonic หรือ Olympus ได้ ตัวเครื่องมาพร้อมปุ่มกดและสามารถสัมผัสที่จอได้ด้วยนะเออ

ออกแบบมาสำหรับรองรับคนที่เบื่อถ่ายรูปจากกล้องสมาร์ทโฟนแล้วอยากลองมาใช้กล้อง Mirrorless ดูบ้าง และยังมีฟังก์ชันน่ารักๆอย่างเราสามารถเปลี่ยนนามสกุลไฟล์จาก Raw เป็น Jpg ทีหลังจากที่ถ่ายรูปมาได้แล้วด้วย หมดปัญหาการตั้งค่าไฟล์ให้เสียเวลาไปเลยจ้า


 

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับ 10 กล้อง Mirrorless ที่นำมาเล่าให้ฟัง ฟังก์ชันหรือจุดเด่นของกล้องแต่ละตัวก็หลากหลายกันแล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้ ใครที่อยากทดลองเล่นก็มีรุ่นรองรับ หรือเป็นสายเซลฟี่ก็มีหลายรุ่นให้เลือกลองที่เหมาะกับความชอบของตัวเอง หรือใครที่อยากได้กล้องกึ่งอาชีพ หรือระดับมืออาชีพเลยก็มี สุดท้ายแล้วเราเป็นผู้เลือกอุปกรณ์มาเก็บความประทับใจของเรา ไม่มีกล้องตัวไหนราคาสูงเกินไปกว่าความทรงจำที่มีค่าของเรา
ดังนั้นค่อยๆเลือก ค่อยๆลอง แล้วคุณอาจจะพบอุปกรณ์บันทึกความทรงจำคู่กายของคุณตัวใหม่ก็เป็นได้

กล้องถ่ายรูปราคาไม่เกิน 10,000 บาท รุ่นไหนดี สำหรับมือใหม่งบจำกัด

เพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบการท่องเที่ยว คงอดไม่ได้ที่จะต้องเก็บภาพสวย ๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เอาไว้ โดยส่วนใหญ่ก็จะใช้กล้องในมือถือในการบันทึกภาพหรือวิดีโอ แต่สำหรับคนที่อยากได้ภาพที่ความละเอียดมาก ๆ ก็อาจจะต้องหา กล้องถ่ายรูป มาใช้สักตัว

 

กล้องถ่ายรูปรุ่นไหนดี ราคาไม่เกิน 10,000 บาท

1. Fujifilm X-A10

กล้องมิลเลอร์เลสตัวสไตล์เรโท เปิดตัวเมื่อปี 2016 มาพร้อมเลนส์คิท Kit 16-50 F 3.5-5.6 ใช้เซ็นเซอร์ 16 Megapixel APS-C CMOS ที่ยังถือว่าตอบโจทย์ได้ดีในปัจจุบัน ด้วยน้ำหนักรวมเลนส์แล้วเพียง 330 กรัม ทำให้การพกพาไปใช้งานนั้นสะดวกมาก โดดเด่นเรื่องการเซลฟี่สามารถพับหน้าจอ LCD (ทัชไม่ได้) ขึ้นมาถ่าย และมีโหมดบิวตี้ (Portrait Enhancer mode) หน้าเนียนดั่งใจมาให้เหมือนรุ่นพี่ X-A3 น่าจะถูกใจสาว ๆ เป็นอย่างดี

กล้องราคาไม่เกิน-10000-บาท-Fuji-AX-10

2. Nikon Coolpix B500

เวลาไปเที่ยวเรื่องการเก็บภาพวิวในระยะไกล ๆ ก็เป็นสิ่งที่เพื่อน ๆ จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะวิวสวย ๆ บางครั้งต้องถ่ายในระยะไกล ๆ ด้วยเช่นกัน กล้อง Nikon Coolpix B500 ตัวนี้มีความสามารถในการเก็บภาพระยะไกลด้วยพลังซูมกว่า 80 เท่าตัว เป็นกล้องแบบ SLR-Like ความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซลด้วยเซ็นเซอร์ CMOS ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 7.4 ภาพต่อวินาที เรียกได้ว่าโพสกันเพลินเลย ขนาดของกล้องกระทัดรัด ออกแบบมาให้จับได้ถนัดมือและสวยงามในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ดูปุ๊บก็รู้เลยว่าเป็น Nikon ทันสมัยสวยลงตัวแบบโมเดิร์น ใครที่ชอบกล้องแบบทันสมัยกะทัดรัดและมากคุณสมบัติก็ต้องตัวนี้เลย

กล้องถ่ายรูป (1)

3. Sony CyberShot DSC –H300

กล้องน่าใช้ในตระกูล CyberShot ของค่ายดังอย่าง Sony ยังคงเจ๋งอย่าง ที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง กล้องถ่ายรูปดิจิตอลราคาเบาๆ ของค่ายโซนี่รุ่นนี้ มีดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวเริ่มจากรูปลักษณ์ที่จับได้ถนัดมือและออกแบบมาให้โค้งมนปราศจากเหลี่ยมมุมทั้งบอดี้ เพื่อน ๆ จะไม่ต้องกังวลแลยเมื่อพกพาเจ้า Sony CyberShot DSC –H300 ตัวนี้ไปเที่ยวทุก ๆ ที่ ด้วยความละเอียดที่มีให้มากถึง 20.1 ล้านพิกเซลจึงได้ภาพละเอียดคมชัดไม่ว่าจะในที่แสงมากหรือแสงน้อย ระบบกันสั่นและระบบจดจำใบหน้าทำให้ถ่ายอย่างไรก็ออกมาสวย ซูมได้ถึง 35 เท่า แถมยังเก็บภาพมุมมองพานอราม่า 350 องศาได้อีก

กล้องราคาไม่เกิน-10000-Sony-CyberShot-DSC-H300

4. Canon EOS 4000D

เป็นกล้อง Canon ที่เป็น DSLR ที่วางขายถูกที่สุดแล้วในตอนนี้ ขายพร้อมเลนส์ 18 – 55mm f/3.5-5.6 IS II ที่ใช้งานได้หลายรูปแบบ จะพกไปเที่ยวหรือถ่ายในสตูก็ยังไหว ถ้าสภาพแสงดี ก็ทำออกมาได้สมชื่อ Canon เค้าล่ะ แล้วด้วยความละเอียดกล้อง 18.1 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าคมชัดเพียงพอแล้ว ถือเป็นกล้อง DSLR รุ่นหนึ่งที่ Priceza ขอแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น หรือมือใหม่ที่อยากมีกล้องเป็นของตัวเอง ได้ลองใช้

กล้องราคาไม่เกิน-10000-Canon-EOS-4000D

5. Canon Powershot SX620 HS

กล้องในซีรี่ส์ powershot ของค่าย canon รุ่นนี้ที่มีดีทั้งบอดี้ที่ออกแบบมาให้ไม่มีส่วนนูนส่วนเกิน ดูเรียบกะทัดรัด พกพาง่าย ตัวบอดี้บางใส่ได้แม้ในกระเป๋าถือแต่มีความละเอียดสูงถึง 20.2 ล้านพิกเซล ภาพที่ออกมาจึงคมชัดมากซูมไกลได้ 25 เท่าและซูมดิจิตอลได้ 4 เท่า สะดวกด้วยระบบออโต้ซูม ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 7.1 ภาพต่อวินาที มีชิปประมวลผลที่ช่วยให้ถ่ายภาพออกมาeสวยแม้กับมือสมัครเล่นทั่วไป

กล้องราคาไม่เกิน-10000-Canon-PowerShot-SX620-HS

และทั้งหมดนี้ก็คือกล้องถ่ายรูปราคาไม่เกิน 10,000 บาทที่เราเอามาฝาก คิดว่าเพื่อน ๆ ที่ยังไม่รู้จะซื้อกล้องรุ่นไหนดี น่าจะมีไอเดียไปกันบ้างแล้ว แต่ถ้าใครอยากได้รุ่นที่ใหม่กว่าในงบเท่านี้ อาจจะลองดูเป็นกล้องมือสองมาใช้ก็ได้เหมือนกันค่ะ

การจะเลือก “กล้องถ่ายรูป“ คู่ใจสักอัน คงไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ต้องใช้เวลาเปรียบเทียบรุ่น ยี่ห้อและราคา ความสวย คุณสมบัติ ยิ่งเรื่องของราคาถ้าเพื่อน ๆ สำรวจเปรียบเทียบดี ๆ ก็จะได้กล้องในราคาที่คุ้มค่า เพื่อนๆ สามารถลองเปรียบเทียบราคากล้องถ่ายรูปรุ่นต่าง ๆ ก็จะซื้อได้เลยค่ะ

กล้องขนาดพกพา สำหรับนักเดินทาง

วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ถ่ายภาพของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกได้แบ่งปันตัวเลือกของ กล้องขนาดพกพา สำหรับบันทึกภาพการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ

การเดินทางสร้างช่วงเวลาที่คุณจะจำจดไปตลอดกาล

บางครั้งประสบการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้จนคุณอยากจะแบ่งปันความวิเศษให้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ ในฐานะวิศวกรด้านอุปกรณ์ถ่ายภาพของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ผมได้ออกแบบและผลิตอุปกรณ์เฉพาะและทดสอบอุปกรณ์ถ่ายภาพของผู้บริโภคด้วย เพื่อช่วยนักเดินทางบันทึกการผจญภัยรอบโลก ผมได้นำ กล้องขนาดพกพา ไปด้วยในทุก ๆ การเดินทางเพื่อทดสอบการใช้งานต่าง ๆ ในสถานการณ์จริง และนี่คือ 10 กล้องขนาดพกพา ที่ดีที่สุดสำหรับผมในปี 2020

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องฟูจิ/ fujifilmxpro3/กล้องขนาดพกพา/ กล้องฟูจิ/

Fujifilm X-Pro 3 (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: ผู้ใช้ที่อยากสัมผัสประสบการณ์แบบการใช้กล้องฟิล์ม

กล้องรุ่นนี้มีการออกแบบแตกต่างจากกล้องทั่วไป หน้าจอหลักถูกซ่อนไว้ด้านใน ใช้การพลิกเพื่อนำหน้าจอออกมา  โดยด้านหน้าของหน้าจอหลักมีจอภาพแบบกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ (E-ink) ขนาดเล็กที่เลียนหน้าต่างด้านหลังของกล้องฟิล์มแบบ Rangefinder และมีช่องมองภาพแบบ optical viewfinder และ electronic viewfinder หน้าจอหลักที่ซ่อนไว้ ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเช็คภาพทุกครั้ง เพราะกล้องไม่ควรดึงดูดสิ่งที่อยู่ตรงหน้าขณะท่องเที่ยว แต่ควรเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยว กล้องรุ่นนี้มีเซนเซอร์และระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ดีเยี่ยมเหมือนกับตัว X-T3 ยกเว้นแต่หน้าตาที่เลียนแบบกล้องฟิล์มของฟูจิในอดีต มีตัวเลือกโทนสีภาพ Classic Neg ซึ่งจำลองสีฟิล์มจากฟิล์ม Fuji Superia

เคล็ดลับ: การใช้ระบบจำลองภาพฟิล์ม ตั้งค่ากล้องโดยใช้ฟอร์แมต JPEG และใช้เลนส์ไพรม์ที่กำหนดระยะโฟกัสระหว่างช่วง 24-85 มิลลิเมตร เพื่อลดการมองหน้าจอและมีเวลาสนุกกับการเดินทางมากขึ้น

 

กล้องคอมแพค/ กล้องricoh/ ricohgriii/ กล้องขนาดพกพา/

 

Ricoh GRIII (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: ผู้ที่ชอบถ่ายภาพสตรีท พกพาสะดวกและใช้งานง่าย

กล้องคอมแพคขนาดเล็กรุ่นนี้ทำให้ผมอยากถ่ายรูปตลอดเวลา เพราะขนาดที่เล็กพอดีกับกระเป๋ากางเกงและสามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียว มีหน้าจอระบบสัมผัสทำงานอย่างรวดเร็ว ระบบตั้งค่าง่ายต่อการใช้งาน กล้องรุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ โดยมีความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์ APS-C มีระบบกันสั่นในตัว (IBIS) และระบบโฟกัสอัตโนมัติสองลักษณะ กล้องตัวนี้คือหนึ่งในเพื่อนเดินทางที่ดีในการเก็บภาพการท่องเที่ยว

เคล็ดลับ: กล้องรุ่นนี้มีความจุแบตเตอรีไม่สูงมาก แต่มีช่องเสียบ USB-C ในตัว  สามารถชาร์จบนรถยนต์หรือที่ชาร์จมือถือสำหรับการชาร์จแบตเตอรีกล้องตัวนี้ได้

 

กล้องคอมแพค/ กล้องโซนี่/ sonyrx100vii/ กล้องขนาดพกพา/

Sony RX100VII (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: การถ่ายภาพสตรีท ด้วยการถ่ายที่รวดเร็วและแม่นยำ

กล้องรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 7 จากตระกูลกล้องคอมแพค RX100 ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด RX100VII มากับระบบโฟกัสอัตโนมัติตามเวลาจริง มีระบบโฟกัสดวงตาและใบหน้าที่แม่นยำมากขึ้น ซึ่งสามารถโฟกัสดวงตาและใบหน้าของสัตว์ได้ กล้องรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพได้ถึง 20 เฟรมต่อหนึ่งวินาที ซึ่งดีที่สุดในกล้องรุ่นขนาดเท่ากัน เนื่องจากมีระบบโฟกัสความเร็วสูงเหมือนกับในกล้องรุ่นเรือธงอย่าง A9 ถ่ายด้วยระบบไฟฟ้าโดยไม่ทำให้ภาพผิดเพี้ยน ถ่ายภาพแบบเงียบได้ และปรับความเร็วชัตเตอร์ได้สูง จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงจ้า กล้องตัวนี้มาพร้อมกับเลนส์ซูมระยะ 24-200 มิลลิเมตร ที่ครอบคลุมทุกช่วงสำหรับนักท่องเที่ยว ถึงแม้จะมีราคาค่อนข้างสูงสำหรับกล้องขนาดเล็ก แต่ก็สามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องไลก้า/ leicaq2/กล้องขนาดพกพา/ กล้องไลก้า/ leicaqp/

 

Leica Q2 และ Q-P (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: การทำงานอย่างรอบด้านและความหรูหรา

กล้อง Leica Q2 และ Q-P มีเลนส์เหมือนกันและมีรูปร่างคล้ายกัน แต่รุ่น Q-2 มีเซนเซอร์ใหญ่กว่า ด้วยความละเอียด 47.5 ล้านพิกเซลและมีการเคลือบป้องกันน้ำ ฝุ่นละออง และสภาพอากาศต่าง ๆ แต่ต้องแลกกับการทำงานที่ช้าลงในรุ่น Q2 ในขณะที่รุ่น Q-P มีขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า ดังนั้นรุ่น Q2 จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการกล้องรุ่นใหม่ และรุ่น Q-P (หรือ Q) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเงินและได้ประสบการณ์ที่ไม่ต่างจากเดิม

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องฟูจิ/ fujifilmxt3

Fujifilm X-T3 (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: การใช้งานอย่างรอบด้านและง่ายต่อการใช้งานทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ

กล้องรุ่นนี้มีคุณสมบัติสูสีกับกล้องมิลเลอร์เลสแบบฟูลเฟรมและกล้อง DSLR เพราะมีระบบโฟกัสอัตโนมัติ คุณภาพของรูป และรูปลักษณ์ของกล้องเหมือนกับกล้องรุ่นใหญ่กล้องรุ่นนี้มีเซนเซอร์และตัวประมวลภาพเหมือนกับรุ่น X-Pro 3 แต่มีรูปร่างเหมือนกล้อง SLR โดยสามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วมือ สามารถพลิกหน้าจอได้สามด้านและมีช่องมองภาพแบบ electronic viewfinder  ที่ค่อนข้างดี สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดในกล้องตัวนี้ คือ หน้าตาแบบย้อนยุค แต่ระบบการควบคุมระดับมืออาชีพ มีการเคลือบป้องกันจากสภาพอากาศต่าง ๆ และมีช่องต่อสำหรับการบันทึกวิดีโอและถ่ายภาพนิ่ง นี่เป็นกล้องมิลเลอร์เลสที่ดีที่สุดในตลาดในขณะที่ผมเขียนบทความนี้อยู่

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องโอลิมปัส/ olympusomdem1ii/

Olympus OM-D E-M1MKII (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: มือสมัครเล่น ด้วยการทำงานที่รวดเร็วและพร้อมลุยในทุกสภาพอากาศ

กล้อง Olympus OM-D E-M1MKII ออกแบบเดือยหมุนและปุ่มต่าง ๆ บนตัวกล้อง ทำให้สามารถปรับตั้งค่าได้รวดเร็ว มีขนาดกระชับมือ ใช้งานกับเลนส์ในระดับกลุ่มมืออาชีพที่มีคุณภาพและความทนทานสูง พร้อมด้วยการซูมและโฟกัสที่ลื่นไหล และพื้นหลังละลาย กล้องรุ่นนี้เป็น mircro four thirds (MFT) มีเซอเซอร์ขนาดเล็ก ทำให้ได้ภาพในระยะไกลจากเลนส์ขนาดเล็ก เช่น เลนส์ระยะ 300 มิลลิเมตร (เท่ากับ 600 มิลลิเมตร บนกล้อง MFT) สามารถพกพาใส่กระเป๋าเป้พร้อมกับเลนส์ 2-3 ตัว มีระบบกันสั่นยอดเยี่ยม ทนทานต่อสภาพอากาศ และทำงานอย่างรวดเร็ว จึงเหมาะแก่การถ่ายภาพสัตว์ป่า

เคล็ดลับ: เลนส์แนะนำ คือ เลนส์ระยะ 12-100 มิลลิเมตร F4 IS PRO (เลนส์คิตระยะ 24-200 มิลลิเมตร), 40-150 มิลลิเมตร F2.8 PRO (เลนส์ซูมเกรดโปร ระยะ 80-300), 7-14 มิลลิเมตร (เลนส์ซูมมุมกว้าง) และแน่นอน 300 มิลลิเมตร F4 IS PRO (เท่ากับระยะ 600 มิลลิเมตร F4)

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องฟูจิ/ fujifilmx100f/

Fujifilm X100F (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: ผู้หลงใหลการถ่ายภาพสตรีท ใช้ leaf shutter ที่มีความเงียบและสามารถซิงค์แฟลชความเร็วสูงได้

กล้องในกลุ่ม X100 สามารถใช้ได้ในหลายสถานการณ์ กล้องรุ่นนี้มีขนาดพอดีกับกระเป๋ากางเกงขนาดใหญ่หรือกระเป๋ากล้องขนาดเล็ก มาพร้อมกับเลนส์ไพรม์ระยะ 35 มิลลิเมตร ที่มี leaf shutter และสามารถปิดเสียงชัตเตอร์ได้ จึงเหมาะสำหรับการถ่ายในที่ห้ามใช้เสียงดัง สามารถชิงค์แฟลชเพื่อใช้ชัตเตอร์ความเร็วสูงได้ (ใช้แฟลชขนาดเล็กเพื่อเพิ่มความสว่างในที่แสงน้อยได้) ระบบมีเซนเซอร์ที่ดีเยี่ยม แบตเตอรีมีความจุสูง ช่องมองภาพแบบผสมระหว่าง electronic viewfinder และ optical viewfinder

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องแคนอน/ canoneosm6ii

Canon EOS M6 MKII (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: มือสมัครเล่นที่ต้องการกล้องราคาไม่สูงมาก พร้อมการควบคุมด้วยปุ่มและระบบสัมผัสที่ใช้งานง่าย

กล้องมิลเลอร์เลสขนาดเล็กรุ่นนี้สามารถควบคุมได้ด้วยปุ่มและระบบสัมผัส จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มถ่ายภาพ พร้อมเซนเซอร์ที่มีความละเอียดในการแสดงผลของภาพสูงสุดในกลุ่มกล้องมิลเลอร์เลส APS-C ด้วยความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลล์ สำหรับช่างภาพที่ใช้กล้องฟูลเฟรม DSLR ของแคนอน สามารถนำเลนส์จากกล้อง DSLR มาใช้กับกล้องตัวนี้ได้ผ่านอแดปเตอร์ ถึงแม้ว่าเลนส์สำหรับกล้องตัวนี้จะไม่ดีมาก และการทำงานไม่ได้เท่ากับกล้องระดับสูงตัวอื่น ๆ แต่ความง่ายในการใช้งาน ความละเอียดของเซนเซอร์ ทำให้กล้องตัวนี้เหมาะสำหรับช่างภาพมือใหม่

เคล็ดลับ: ซื้อช่องมองภาพแบบ electronic viewfinder เพื่อเชื่อมต่อกับตัวกล้อง

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องพานาโซนิค/ panasonicdcg9/

Panasonic DC-G9 (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: ช่างภาพที่ต้องการถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ สามารถทำได้ทั้งสองฟังก์ชันด้วยกล้อง Panasonic DC-G9  พร้อมช่องต่อ HDMI ขนาดใหญ่ และระบบกันสั่นคุณภาพเยี่ยม

ตัวกล้องมีขนาดที่เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอในระดับเอวหรือระดับหน้าอก มีช่องมองภาพแบบ electronic viewfinder ขนาดกว้าง พร้อมเทคโนโลยี Depth from Defocus (DFD) ที่สามารถถ่ายภาพคน สัตว์ และวัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วได้ ระบบ IBIS ที่ทำงานได้ดีกับเลนส์กันสั่น กล้อง DC-G9 ตัวนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในรายการนี้

เคล็ดลับ: ใช้คู่กับเลนส์คิตระยะ 12-60 มิลลิเมตร (เท่ากับระยะ 24-120 มิลลิเมตร) ทำให้คุณสามารถใช้ได้ในทุกการเดินทาง

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องโซนี่/ sonya6600/

Sony a6600 (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: การใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานด้วยแบตเตอรี Z-style สามารถถ่ายภาพได้ 800 ภาพจากการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง

กล้อง a6600 เป็นกล้องรุ่นแรกที่ใช้แบตเตอรี Z-style ซึ่งใช้กับกล้องมิลเลอร์เลสประเภทฟูลเฟรมรุ่นใหม่ ๆ ของโซนี่ สามารถถ่ายภาพได้ถึง 800 ภาพในการชาร์จหนึ่งครั้ง มาพร้อมระบบกันสั่น (IBIS) เหมือนกับในรุ่น a6500 กล้องรุ่นนี้มีเทคโนโลยีโฟกัสอัตโนมัติที่ดีที่สุดเหมือนกับกล้องฟูลเฟรมของโซนี่ ช่วยให้ถ่ายภาพในช่วงเวลาสำคัญได้ เช่น การแข่งขันฟุตบอล หรือการถ่ายภาพนกเหยี่ยวกำลังบิน คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้กล้อง a6600 เป็นตัวเลือกที่ไว้ใจได้

เคล็ดลับ: ใช้คู่กับเลนส์ระยะ 16-55 มิลลิเมตร F2.8 (เท่ากับระยะ 24-82 มิลลิเมตร)

5 กล้องตัวท็อป ! “ที่สุด” ในรุ่น 2020 !

ในปีที่ผ่านมา แต่ละแบรนด์ได้มีการเปิดตัวกล้องหลายๆตัวมาแข่งกัน วันนี้เราจะมาพูดถึงจุดเด่นของกล้องที่พึ่งเปิดตัวกันมาในปีที่ผ่านมา ประชันกันว่า ใครจะเด่นในด้านไหน และกล้องตัวไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของคุณ

เริ่มต้นกันที่ “กล้องที่อึดที่สุด ! (แบตเตอรี่)” ก็คือ กล้อง SONY α6600 นั้นเอง ! เป็นกล้องเรือธงที่นอกจากเสียงชื่นชมจากสเป็คของกล้องที่จัดเต็มมาแล้ว กล้อง α6600 เป็นกล้อง APS-C ที่จัดเต็มในการถ่าย ที่ได้ทั้งภาพนิ่งที่ถ่ายได้ถึงความละเอียด 24.2 พิกเซล และวีดีโอ 4K อีกด้วย เพราะด้วยตัวกล้อง SONY α6600 ที่มีกันสั่นถึง 5 แกนที่ช่วยลดการสั่นไหวได้ถึง 5 สตอป จึงทำให้การถ่ายภาพของเราสมูทขึ้น และกล้องตัวนี้ยังเพิ่มช่องเสียบได้ทั้งไมโครโฟนและหูฟัง มาถึงจุดเด่นของแบตเตอรี่ของกล้อง SONY α6600 ที่มาคู่กับแบตเตอรี่รุ่น NP-FZ100 ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความอึดและทน โดยการใช้งานจริงหลังจากที่มีการทดสอบการใช้งานใน 1 วัน สามารถถ่ายภาพนิ่งได้ถึง 600 ภาพ และวีดีโออีก 20 นาที แบตเตอรี่ของกล้องตัวนี้ยังเหลือราวๆ 20% อยู่เลย นับเป็นกล้องที่มีความอึดถึกและทน (แบตเตอรี่) มากๆเลย !

SONY α6600 BODY ด้านหน้า / ด้านหลัง

 

มาต่อกันในกล้องตัวต่อไป คือ “กล้องที่มีความวินเทจที่สุด !” อินเทรนด์มากในขณะนี้กับการเล่นกล้องฟิล์ม นั่นก็คือ กล้อง FUJIFILM X-Pro 3 นั้นเอง ! ด้วย body ภายนอกของกล้องมีการออกแบบมาในรูปแบบของกล้อง Rangefinder (ช่องมองภาพด้านข้างแบบกล้องฟิล์มสมัยก่อน) ให้มีสไตล์ที่ผสมผสานระหว่างกล้องฟิล์มและกล้องดิจิตอล ช่องมองภาพนี้เป็นแบบ Advanced Hybrid Viewfinder ที่สามารถเปลี่ยนสลับให้ใช้ได้ทั้ง Optical View Finder (มองภาพจากช่องมองภาพจริง เห็นภาพจริงตรงหน้า ไม่ได้ผ่านจอ electronic) และ Electronic View Finder (เป็นหน้าจอ electronic ที่มีฟังก์ชั่นหรือการปรับตั้งค่า) แถมที่ตัว body ในสีของ Dura Black และ Dura Silver ยังมีการเคลือบสาร Duratech เพื่อป้องกันลอยขีดข่วนของตัวกล้องอีกด้วย กล้อง FUJIFILM X-Pro 3 ตัวนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ! ในส่วนของฟังก์ชั่น กล้องตัวนี้ยังสามารถถ่ายรูปแบบจำลองสีของฟิล์มที่มีถึง 11 แบบ ในสีที่นิยมในอดีตอย่าง Fujifilm Superia และฟิล์มใหม่ที่เอามาใส่ในตัวกล้องนี้อย่างสี CLASSIC Neg แต่ยังไม่ทิ้งความเป็นกล้องดิจิตอลโดยสามารถถ่ายรูปซ้อนได้ถึง 9 เฟรม และยังนำสีของฟิล์มต่างๆมาใช้ในโหมดนี้ได้ด้วย !

FUJIFILM X-Pro 3 BODY ด้านหน้า

FUJIFILM X-Pro 3 BODY ด้านหลัง

 

กล้องตัวต่อไปจะเป็น ”กล้องที่เร็วที่สุด ! (จับโฟกัสได้เร็วที่สุด)” ต้องไม่พ้นกล้อง SONY α9 MII อย่างแน่นอน ! ด้วยกล้อง Full frame ตัวนี้ สามารถจับโฟกัสได้เร็วมาก ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงถึง 20 ภาพต่อวินาที เร็วจนสามารถถ่ายภาพในกีฬาต่างๆโดยไม่พลาดแม้แต่ช็อตเดียว ! และมีฟิเจอร์ Voice Memo ที่สามารถบันทึกเสียงพูดลงในไฟล์ภาพถ่ายเพื่อช่วยในการนำมาใช้งานได้สะดวกขึ้น แถมยังมีการ AI ที่ติดตามการเคลื่อนไหวได้แบบ real time ประมวลผลข้อมูลสี รูปแบบ ระยะทาง ใบหน้า และดวงตาจากเซนเซอร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สูงมาก AI นี้ยังสามารถจับรูปแบบดวงตาในแบบของสัตว์ได้ด้วย การถ่ายน้องหมาที่ขยับตัวตลอดเวลาก็จะไม่ยากอีกต่อไปถ้าใช้กล้อง SONY α9 MII ตัวนี้ !

SONY α9 MII BODY ด้านหน้า

SONY α9 MII BODY ด้านหลัง

กล้องตัวนี้จะเป็น “กล้องที่แข็งแรงที่สุด ! (ถึกทนแรงกระแทก)” คิดไม่ผิดหรอก มันคือกล้อง Gopro hero 8 black นั้นเอง ! ด้วยความที่เป็นกล้อง Action Camera ตัวกล้องจะต้องถึกคงทน เรียกได้ว่าเป็นกล้องที่สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกก็ว่าได้ Gopro hero 8 black ตัวใหม่นี้ยังมีกันสั่นแบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นเป็น HyperSmooth 2.0 เป็น HyperSmooth Boost ที่แทบจะไม่ต้องใช้ไม้กันสั่นกันเลยทีเดียว กล้อง Action Camera ตัวจิ๋วพกพาง่ายนี้ ยังลองรับการถ่ายวีดีโอ 4K ได้สูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที แถมมุมมองในการถ่ายภาพที่พัฒนาขึ้นเป็น 4 แบบ มี Linear (19-39mm), Narrow (27mm) , SuperView (16mm) ,Wide (16-34mm) คราวนี้ก็เก็บวิวตอนที่ไปท่องเที่ยวถ่าพภาพหรือถ่ายวีดีโอได้ครบไม่ขาดตอนแล้ว !

Gopro hero 8 black BODY ด้านหน้า

 

Gopro hero 8 black BODY ด้านหลัง

 

มาที่กล้องที่สุดตัวสุดท้ายกันแล้ว นั้นคือ กล้องที่เอาใจสาวๆมากที่สุด “กล้องที่น่ารักที่สุด ! (ใสๆเหมาะกับสาวๆที่สุด)” เรียกได้ว่าสาวๆน่าจะไม่พลาดกันในส่วนของกล้องตัวนี้เลย FUJIFILM MINI INSTAX LIPLAY ที่พึ่งเปิดตัวกันไปในตอนปลายปีที่ผ่านมานี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนจะได้ยินในชื่อเสียงของตัวกล้อง INSTAX ที่สามารถถ่ายภาพปุ๊บ ปริ้นท์ภาพได้ปั๊บ ! โดยการเลือกภาพจากหน้าจอด้านหลังก่อนที่จะปริ้นท์ออกมา ทำให้ไม่สิ้นเปลืองฟิล์มแถมยังได้รูปที่เราต้องการ ! และตัว INSTAX MINI LIPLAY ตัวนี้ยังสามารถอัดเสียงลงไปในภาพที่ปริ้นท์มาในแต่ละภาพได้อีกด้วย ! ฟังไม่ผิด มันสามารถเก็บเสียงในขณะถ่ายรูปนั้นๆได้จริงๆ หลังจากที่รูปออกมาแล้วจะมี QR code ที่พอเราสแกน สามารถเข้าไปฟังเสียงผ่านโทรศัพท์เราได้อีกด้วย และยังสามารถสั่งถ่ายรูประยะไกลจากสมาร์ตโฟนของเราอีก !

FUJIFILM MINI INSTAX LIPLAY