Slider
ดูหนังเอเชีย

Blog

กล้องขนาดพกพา สำหรับนักเดินทาง

วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ถ่ายภาพของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกได้แบ่งปันตัวเลือกของ กล้องขนาดพกพา สำหรับบันทึกภาพการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ

การเดินทางสร้างช่วงเวลาที่คุณจะจำจดไปตลอดกาล

บางครั้งประสบการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้จนคุณอยากจะแบ่งปันความวิเศษให้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ ในฐานะวิศวกรด้านอุปกรณ์ถ่ายภาพของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ผมได้ออกแบบและผลิตอุปกรณ์เฉพาะและทดสอบอุปกรณ์ถ่ายภาพของผู้บริโภคด้วย เพื่อช่วยนักเดินทางบันทึกการผจญภัยรอบโลก ผมได้นำ กล้องขนาดพกพา ไปด้วยในทุก ๆ การเดินทางเพื่อทดสอบการใช้งานต่าง ๆ ในสถานการณ์จริง และนี่คือ 10 กล้องขนาดพกพา ที่ดีที่สุดสำหรับผมในปี 2020

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องฟูจิ/ fujifilmxpro3/กล้องขนาดพกพา/ กล้องฟูจิ/

Fujifilm X-Pro 3 (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: ผู้ใช้ที่อยากสัมผัสประสบการณ์แบบการใช้กล้องฟิล์ม

กล้องรุ่นนี้มีการออกแบบแตกต่างจากกล้องทั่วไป หน้าจอหลักถูกซ่อนไว้ด้านใน ใช้การพลิกเพื่อนำหน้าจอออกมา  โดยด้านหน้าของหน้าจอหลักมีจอภาพแบบกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ (E-ink) ขนาดเล็กที่เลียนหน้าต่างด้านหลังของกล้องฟิล์มแบบ Rangefinder และมีช่องมองภาพแบบ optical viewfinder และ electronic viewfinder หน้าจอหลักที่ซ่อนไว้ ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเช็คภาพทุกครั้ง เพราะกล้องไม่ควรดึงดูดสิ่งที่อยู่ตรงหน้าขณะท่องเที่ยว แต่ควรเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยว กล้องรุ่นนี้มีเซนเซอร์และระบบโฟกัสอัตโนมัติที่ดีเยี่ยมเหมือนกับตัว X-T3 ยกเว้นแต่หน้าตาที่เลียนแบบกล้องฟิล์มของฟูจิในอดีต มีตัวเลือกโทนสีภาพ Classic Neg ซึ่งจำลองสีฟิล์มจากฟิล์ม Fuji Superia

เคล็ดลับ: การใช้ระบบจำลองภาพฟิล์ม ตั้งค่ากล้องโดยใช้ฟอร์แมต JPEG และใช้เลนส์ไพรม์ที่กำหนดระยะโฟกัสระหว่างช่วง 24-85 มิลลิเมตร เพื่อลดการมองหน้าจอและมีเวลาสนุกกับการเดินทางมากขึ้น

 

กล้องคอมแพค/ กล้องricoh/ ricohgriii/ กล้องขนาดพกพา/

 

Ricoh GRIII (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: ผู้ที่ชอบถ่ายภาพสตรีท พกพาสะดวกและใช้งานง่าย

กล้องคอมแพคขนาดเล็กรุ่นนี้ทำให้ผมอยากถ่ายรูปตลอดเวลา เพราะขนาดที่เล็กพอดีกับกระเป๋ากางเกงและสามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียว มีหน้าจอระบบสัมผัสทำงานอย่างรวดเร็ว ระบบตั้งค่าง่ายต่อการใช้งาน กล้องรุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ โดยมีความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์ APS-C มีระบบกันสั่นในตัว (IBIS) และระบบโฟกัสอัตโนมัติสองลักษณะ กล้องตัวนี้คือหนึ่งในเพื่อนเดินทางที่ดีในการเก็บภาพการท่องเที่ยว

เคล็ดลับ: กล้องรุ่นนี้มีความจุแบตเตอรีไม่สูงมาก แต่มีช่องเสียบ USB-C ในตัว  สามารถชาร์จบนรถยนต์หรือที่ชาร์จมือถือสำหรับการชาร์จแบตเตอรีกล้องตัวนี้ได้

 

กล้องคอมแพค/ กล้องโซนี่/ sonyrx100vii/ กล้องขนาดพกพา/

Sony RX100VII (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: การถ่ายภาพสตรีท ด้วยการถ่ายที่รวดเร็วและแม่นยำ

กล้องรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 7 จากตระกูลกล้องคอมแพค RX100 ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด RX100VII มากับระบบโฟกัสอัตโนมัติตามเวลาจริง มีระบบโฟกัสดวงตาและใบหน้าที่แม่นยำมากขึ้น ซึ่งสามารถโฟกัสดวงตาและใบหน้าของสัตว์ได้ กล้องรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพได้ถึง 20 เฟรมต่อหนึ่งวินาที ซึ่งดีที่สุดในกล้องรุ่นขนาดเท่ากัน เนื่องจากมีระบบโฟกัสความเร็วสูงเหมือนกับในกล้องรุ่นเรือธงอย่าง A9 ถ่ายด้วยระบบไฟฟ้าโดยไม่ทำให้ภาพผิดเพี้ยน ถ่ายภาพแบบเงียบได้ และปรับความเร็วชัตเตอร์ได้สูง จึงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในที่แสงจ้า กล้องตัวนี้มาพร้อมกับเลนส์ซูมระยะ 24-200 มิลลิเมตร ที่ครอบคลุมทุกช่วงสำหรับนักท่องเที่ยว ถึงแม้จะมีราคาค่อนข้างสูงสำหรับกล้องขนาดเล็ก แต่ก็สามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องไลก้า/ leicaq2/กล้องขนาดพกพา/ กล้องไลก้า/ leicaqp/

 

Leica Q2 และ Q-P (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: การทำงานอย่างรอบด้านและความหรูหรา

กล้อง Leica Q2 และ Q-P มีเลนส์เหมือนกันและมีรูปร่างคล้ายกัน แต่รุ่น Q-2 มีเซนเซอร์ใหญ่กว่า ด้วยความละเอียด 47.5 ล้านพิกเซลและมีการเคลือบป้องกันน้ำ ฝุ่นละออง และสภาพอากาศต่าง ๆ แต่ต้องแลกกับการทำงานที่ช้าลงในรุ่น Q2 ในขณะที่รุ่น Q-P มีขนาดไฟล์ที่เล็กกว่า ดังนั้นรุ่น Q2 จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการกล้องรุ่นใหม่ และรุ่น Q-P (หรือ Q) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเงินและได้ประสบการณ์ที่ไม่ต่างจากเดิม

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องฟูจิ/ fujifilmxt3

Fujifilm X-T3 (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: การใช้งานอย่างรอบด้านและง่ายต่อการใช้งานทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ

กล้องรุ่นนี้มีคุณสมบัติสูสีกับกล้องมิลเลอร์เลสแบบฟูลเฟรมและกล้อง DSLR เพราะมีระบบโฟกัสอัตโนมัติ คุณภาพของรูป และรูปลักษณ์ของกล้องเหมือนกับกล้องรุ่นใหญ่กล้องรุ่นนี้มีเซนเซอร์และตัวประมวลภาพเหมือนกับรุ่น X-Pro 3 แต่มีรูปร่างเหมือนกล้อง SLR โดยสามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วมือ สามารถพลิกหน้าจอได้สามด้านและมีช่องมองภาพแบบ electronic viewfinder  ที่ค่อนข้างดี สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดในกล้องตัวนี้ คือ หน้าตาแบบย้อนยุค แต่ระบบการควบคุมระดับมืออาชีพ มีการเคลือบป้องกันจากสภาพอากาศต่าง ๆ และมีช่องต่อสำหรับการบันทึกวิดีโอและถ่ายภาพนิ่ง นี่เป็นกล้องมิลเลอร์เลสที่ดีที่สุดในตลาดในขณะที่ผมเขียนบทความนี้อยู่

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องโอลิมปัส/ olympusomdem1ii/

Olympus OM-D E-M1MKII (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: มือสมัครเล่น ด้วยการทำงานที่รวดเร็วและพร้อมลุยในทุกสภาพอากาศ

กล้อง Olympus OM-D E-M1MKII ออกแบบเดือยหมุนและปุ่มต่าง ๆ บนตัวกล้อง ทำให้สามารถปรับตั้งค่าได้รวดเร็ว มีขนาดกระชับมือ ใช้งานกับเลนส์ในระดับกลุ่มมืออาชีพที่มีคุณภาพและความทนทานสูง พร้อมด้วยการซูมและโฟกัสที่ลื่นไหล และพื้นหลังละลาย กล้องรุ่นนี้เป็น mircro four thirds (MFT) มีเซอเซอร์ขนาดเล็ก ทำให้ได้ภาพในระยะไกลจากเลนส์ขนาดเล็ก เช่น เลนส์ระยะ 300 มิลลิเมตร (เท่ากับ 600 มิลลิเมตร บนกล้อง MFT) สามารถพกพาใส่กระเป๋าเป้พร้อมกับเลนส์ 2-3 ตัว มีระบบกันสั่นยอดเยี่ยม ทนทานต่อสภาพอากาศ และทำงานอย่างรวดเร็ว จึงเหมาะแก่การถ่ายภาพสัตว์ป่า

เคล็ดลับ: เลนส์แนะนำ คือ เลนส์ระยะ 12-100 มิลลิเมตร F4 IS PRO (เลนส์คิตระยะ 24-200 มิลลิเมตร), 40-150 มิลลิเมตร F2.8 PRO (เลนส์ซูมเกรดโปร ระยะ 80-300), 7-14 มิลลิเมตร (เลนส์ซูมมุมกว้าง) และแน่นอน 300 มิลลิเมตร F4 IS PRO (เท่ากับระยะ 600 มิลลิเมตร F4)

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องฟูจิ/ fujifilmx100f/

Fujifilm X100F (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: ผู้หลงใหลการถ่ายภาพสตรีท ใช้ leaf shutter ที่มีความเงียบและสามารถซิงค์แฟลชความเร็วสูงได้

กล้องในกลุ่ม X100 สามารถใช้ได้ในหลายสถานการณ์ กล้องรุ่นนี้มีขนาดพอดีกับกระเป๋ากางเกงขนาดใหญ่หรือกระเป๋ากล้องขนาดเล็ก มาพร้อมกับเลนส์ไพรม์ระยะ 35 มิลลิเมตร ที่มี leaf shutter และสามารถปิดเสียงชัตเตอร์ได้ จึงเหมาะสำหรับการถ่ายในที่ห้ามใช้เสียงดัง สามารถชิงค์แฟลชเพื่อใช้ชัตเตอร์ความเร็วสูงได้ (ใช้แฟลชขนาดเล็กเพื่อเพิ่มความสว่างในที่แสงน้อยได้) ระบบมีเซนเซอร์ที่ดีเยี่ยม แบตเตอรีมีความจุสูง ช่องมองภาพแบบผสมระหว่าง electronic viewfinder และ optical viewfinder

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องแคนอน/ canoneosm6ii

Canon EOS M6 MKII (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: มือสมัครเล่นที่ต้องการกล้องราคาไม่สูงมาก พร้อมการควบคุมด้วยปุ่มและระบบสัมผัสที่ใช้งานง่าย

กล้องมิลเลอร์เลสขนาดเล็กรุ่นนี้สามารถควบคุมได้ด้วยปุ่มและระบบสัมผัส จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มถ่ายภาพ พร้อมเซนเซอร์ที่มีความละเอียดในการแสดงผลของภาพสูงสุดในกลุ่มกล้องมิลเลอร์เลส APS-C ด้วยความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลล์ สำหรับช่างภาพที่ใช้กล้องฟูลเฟรม DSLR ของแคนอน สามารถนำเลนส์จากกล้อง DSLR มาใช้กับกล้องตัวนี้ได้ผ่านอแดปเตอร์ ถึงแม้ว่าเลนส์สำหรับกล้องตัวนี้จะไม่ดีมาก และการทำงานไม่ได้เท่ากับกล้องระดับสูงตัวอื่น ๆ แต่ความง่ายในการใช้งาน ความละเอียดของเซนเซอร์ ทำให้กล้องตัวนี้เหมาะสำหรับช่างภาพมือใหม่

เคล็ดลับ: ซื้อช่องมองภาพแบบ electronic viewfinder เพื่อเชื่อมต่อกับตัวกล้อง

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องพานาโซนิค/ panasonicdcg9/

Panasonic DC-G9 (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: ช่างภาพที่ต้องการถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ สามารถทำได้ทั้งสองฟังก์ชันด้วยกล้อง Panasonic DC-G9  พร้อมช่องต่อ HDMI ขนาดใหญ่ และระบบกันสั่นคุณภาพเยี่ยม

ตัวกล้องมีขนาดที่เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอในระดับเอวหรือระดับหน้าอก มีช่องมองภาพแบบ electronic viewfinder ขนาดกว้าง พร้อมเทคโนโลยี Depth from Defocus (DFD) ที่สามารถถ่ายภาพคน สัตว์ และวัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วได้ ระบบ IBIS ที่ทำงานได้ดีกับเลนส์กันสั่น กล้อง DC-G9 ตัวนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในรายการนี้

เคล็ดลับ: ใช้คู่กับเลนส์คิตระยะ 12-60 มิลลิเมตร (เท่ากับระยะ 24-120 มิลลิเมตร) ทำให้คุณสามารถใช้ได้ในทุกการเดินทาง

 

กล้องขนาดพกพา/ กล้องโซนี่/ sonya6600/

Sony a6600 (มีจำหน่ายในประเทศไทย)

สำหรับ: การใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานด้วยแบตเตอรี Z-style สามารถถ่ายภาพได้ 800 ภาพจากการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง

กล้อง a6600 เป็นกล้องรุ่นแรกที่ใช้แบตเตอรี Z-style ซึ่งใช้กับกล้องมิลเลอร์เลสประเภทฟูลเฟรมรุ่นใหม่ ๆ ของโซนี่ สามารถถ่ายภาพได้ถึง 800 ภาพในการชาร์จหนึ่งครั้ง มาพร้อมระบบกันสั่น (IBIS) เหมือนกับในรุ่น a6500 กล้องรุ่นนี้มีเทคโนโลยีโฟกัสอัตโนมัติที่ดีที่สุดเหมือนกับกล้องฟูลเฟรมของโซนี่ ช่วยให้ถ่ายภาพในช่วงเวลาสำคัญได้ เช่น การแข่งขันฟุตบอล หรือการถ่ายภาพนกเหยี่ยวกำลังบิน คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้กล้อง a6600 เป็นตัวเลือกที่ไว้ใจได้

เคล็ดลับ: ใช้คู่กับเลนส์ระยะ 16-55 มิลลิเมตร F2.8 (เท่ากับระยะ 24-82 มิลลิเมตร)

Xcrosz ใช้กล้องเว็บแคมสุดคมชัดตัวไหนเวลาสตรีมเกม?

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนเคยดูการไลฟ์สตรีมเกมของคิว Xcrosz ในเพจ Facebook กันมาบ้างแล้ว แต่เคยนึกสงสัยหรือไม่ว่า กล้องเว็บแคมที่พี่คิวเลือกใช้นั้นเป็นของยี่ห้อไหนและรุ่นอะไร ทำไมถึงถ่ายพี่คิวออกมาได้อย่างคมชัด วันนี้ทางทีมงาน Online Station มีคำตอบนั้นให้ทุกคนครับ

 

Xcrosz เป็นครีเอเตอร์หนุ่มในสังกัด Online Station ที่แฟนคลับทุกคนรู้จักกันดีในนามว่า คิว หรือ อิคคิว ผู้มีสไตล์การแคสเกมที่สนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ ทำให้คนดูรู้สึกชื่นชอบและติดตามเขามาอย่างเหนียวแน่น โดยเกมที่เขาแคสเป็นหลักคือ เกม PUBG เวอร์ชั่น LITE และ Mobile กับเกม GTA V ซึ่ง ณ ตอนนี้มีผู้ติดตามในช่องทาง Youtube ไปแล้วกว่า 2,900,000 คน และอีกช่องทางคือ Facebook ที่เขาจะไลฟ์สตรีมเกมอยู่ทุกวัน ก็มีผู้ติดตามอีกมากกว่า 450,000 คน ทั้งนี้เพื่อนๆ สามารถเข้าไปกดติดตามทั้ง 2 ช่องทางได้ที่

Youtube: https://www.youtube.com/user/xcrosz

Facebook: https://www.facebook.com/xcroszgame/

Xcrosz

สำหรับคำถามที่เพื่อนๆ สงสัยกันที่ว่า Xcrosz เลือกใช้กล้องเว็บแคมตัวไหนในการสตรีมเกม คำตอบนั้นก็คือ BRIO กล้องเว็บแคมรุ่นเรือธงจากแบรนด์ Logitech นั่นเอง!

จุดเด่นคร่าวๆ ที่น่าสนใจของกล้องเว็บแคมตัวนี้ คือ สามารถบันทึกภาพที่ความคมชัดสูงสุดระดับ 4K 30 เฟรมต่อวินาที หรือ 30 FPS ซึ่งถ้าปรับความคมชัดเป็น Full HD จะเลือกได้ว่าจะให้บันทึกภาพที่ 30 FPS หรือ 60 FPS อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี RightLight ที่จะช่วยให้เวลาบันทึกภาพในที่แสงน้อย สามารถเห็นตัวของผู้ใช้ได้ ไม่ถูกกลืนหายไปในความมืด โดยกล้องตัวนี้สนนราคาอยู่ที่ 8,399 บาท

brio

brio

นอกจากนี้ทีมงานได้สอบถามพี่ Xcrosz ถึงเหตุผลที่เลือกใช้กล้องเว็บแคมตัวนี้ เขาก็ให้คำตอบมาว่า “เพราะกล้องเว็บแคมตัวนี้ให้ภาพที่คมชัดสูงสุดถึง 4K มีความใช้ง่าย และติดตั้งไม่ยาก” เรียกว่าเป็นเหตุผลง่ายๆ สั้นๆ ที่ทำให้เขาตัดสินใจใช้กล้องเว็บแคม Logitech BRIO ในการสตรีมเกมมาจนถึงตอนนี้นั่นเองครับ!

brio

brio

ตัวอย่างคลิปการไลฟ์สตรีมของ Xcrosz

คลายข้อสงสัยกันแล้วนะครับ สำหรับกล้องเว็บแคมที่ Xcrosz เลือกใช้เวลาสตรีมเกม เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากได้กล้องคุณภาพดีๆ ซื้อแล้วจบสักหนึ่งตัว มาพร้อมกับความคมชัดระดับ 4K การันตีจากการใช้งานจริงของคิว Xcrozเลยครับ

Stragazer SR300 เว็บแคมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel RealSense

ในงาน CES 2016, Razer ได้เปิดตัวเว็บแคมที่ชื่อว่า “Stragazer SR300” ซึ่งเป็นเว็บแคมที่ถือว่ามีความก้าวหน้าอย่างมาก ด้วยความสามารถในการบันทึกวิดีโอได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ที่ความละเอียด 720p ซึ่งโดยปกติแล้วเว็บแคมทั่วไปจะถูกจำกัดอยู่ที่ 30 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น และที่ความละเอียด 1080p ก็สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือเว็บแคมรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี RealSense ของอินเทล


Stragazer SR300 มาพร้อมกับไมคโครโฟนในตัว ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้โดยอัตโนมัติ รวมไปถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับ Green Screen ได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ช่วยให้ความสะดวกกับนักเคสเกมทั้งหลายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้วด้วยความละเอียดในการทำงานของ Stragazer SR300 ทำให้เราสามารถใช้เว็บแคมรุ่นนี้ตรวจจับความเคลื่อนไหวของท่าทางของเราและทำให้เราสามารถเล่นเกมด้วยการออกท่าทางได้ (เป็นเกมที่ออกแบบมาเฉพาะ) ทำให้เว็บแคมไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับการบันทึกภาพและเสียงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

rzr_stargazer_v02rzr_stargazer_v03rzr_stargazer_v05

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท สำหรับมือใหม่เน้นถ่ายภาพสวย ออกทริปได้ดี ถ่าย VLOG สนุก อีกทั้งยังเน้นด้านการดีไซน์เหมาะกับมือใหม่ระดับเริ่มต้น ในวันนี้ผมได้รวมจากประสบการณ์ที่เคยใช้มา และเอามาแนะนำเพื่อให้คนที่กำลังมองหากล้องราคาไม่เกิน 25,000 บาท ได้กล้องที่คุ้มค่าที่สุด แล้วก็เหมาะสำหรับมือใหม่ ซึ่งสามารถได้ความคุ้มค่าทั้งภาพนิ่งและวีดีโอแน่นอนครับ

5 กล้อง MIRRORLESS ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 UPDATE]

1. CANON EOS M50 กล้องมิลเรอร์เลสสำหรับมือใหม่ ซึ่งให้สเปคมาคุ้มค่าที่สุด SKIN TONE สวย ถ่ายภาพได้สีที่ผิวเนียนสไตล์ CANON ถ่ายวีดีโอ 4K ได้

กล้อง Canon EOS M50 เป็นกล้องที่ให้สเปคมาดีเกินคาดตั้งแต่เปิดตัว ทั้งความละเอียด ความสามารถในการถ่ายวีดีโอที่ดีมาก บอดี้เหมาะกับทุกคน จับถือง่าย มีน้ำหนักเบา สกินโทนก็สวย เหมาะกับมือใหม่มากพอสมควร อีกทั้ง Canon เองก็มีระบบเลนส์ที่ครบทุกช่วงให้ใช้ แม้ว่า Mount Lens ของ Canon EOS M50 เป็น EF-M Mount แต่เขาก็ยังได้ผลิต Adapter เลนส์สำให้หรับใช้งาน EF, EF-S ได้ ทำให้เรามองเห็นภาพว่า Canon ตั้งใจจะให้เลนส์ทั้งระบบของกล้องแบรนด์นี้ใช้งานร่วมกันได้ให้มากที่สุด

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 Update]

จุดเด่นที่น่าสนใจของ CANON EOS M50

  1. ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งมากเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับถ่ายภาพนิ่ง อัพลง Facebook, Blog หรือทำคอนเทนต์รีวิวที่เน้นความจริงจังในการนำเสนอ
  2. ถ่ายวีดีโอความละเอียดที่ 4K ได้ สามารถที่จะใช้ถ่ายงานได้ดี แม้ว่าปัจจุบันจะใช้ความละเอียดที่ Full HD แต่ว่าเมื่อมีวีดีโอแบบ 4K จะช่วยให้ Crop และขยายรายละเอียดในการทำวีดีโอได้มากขึ้น
  3. ระบบโฟกัส Dual Pixel มีความแม่นยำจนไว้ใจได้จริง ๆ แม้ว่าจะเป็นกล้องระดับเริ่มต้นแต่ Canon ใส่ให้เรียบร้อยแล้ว ทำให้การโฟกัสแม่นยำ นุ่มนวล ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
  4. หน้าจอ Touch Screen พร้อมทั้ง Drag Focus ได้ เป็นการใช้ที่นุ่มนวล เรียบง่าย
  5. ระบบกันสั่นแบบ 7 แกน (5 แกนเป็น Digital และ 2 แกนเป็น Analog ที่ Lens) ช่วยลดการสั่นไหวได้ในระดับนึงสำหรับโหมดวีดีโอ
  6. หน้าจอพับได้ สามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวก ทำให้เวลาถ่ายภาพมุมกด มุมอื่น ๆ มีความสะดวกมากขึ้น สามารถที่จะยกถ่าย Selfie ได้ด้วย ใช้ในการ Vlog ได้ ตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกกลุ่มได้ดี
  7. มี Adapter แปลงให้ใช้สำหรับเลนส์ Canon EF, EF-S ทำให้ใครที่อยากถ่ายภาพจริงจังด้วยกล้องตัวนี้มีทางเลือกในการซื้อเลนส์มาใช้ได้
  8. มีช่องเสียบ Microphone สำหรับถ่ายวีดีโอ เวลาที่ถ่าย Vlog สามารถอัพเกรดระบบเสียงด้วย Microphone จากภายนอกได้ ทั้งแบบ Wireless และ Shotgun Microphone
  9. น้ำหนักเบา ดีไซน์สวย เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ชอบกล้องง่าย ๆ ถ่ายสนุก ได้สกินโทนสวย จอพับได้
5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 Update]
Canon EOS M50 รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K
5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 Update]

ข้อสังเกตของ CANON EOS M50

  • ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้องแบบ Mechanic ทำให้เกิดการสั่นไหวพอสมควรถ้าเดินด้วยน้ำหนักปกติเวลาถ่ายวีดีโอ

CANON EOS M50 + 15-45MM ราคา 21,900 บาท – 23,990 บาท (ประกันศูนย์)

*ราคาช่วง Promotion หรืองาน Photo Fair 2019 น่าจะมีแนวโน้มลดเยอะกว่านี้ สอบถามตามร้านค้าที่จำหน่ายประกันศูนย์อย่างเป็นทางการดูอีกครั้งนะครับ


2. FUJIFILM X-T100 กล้องมิลเรอร์เลสระดับเริ่มต้น การดีไซน์ RETRO เน้นความสวยงาม และการถ่ายภาพให้สวยเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมสีฟิล์มสไตล์ FUJIFIM ที่จบได้ในกล้องเลย

Fujifilm X-T100 เป็นกล้องรุ่นเริ่มต้นที่ให้สเปคมาดีมาก เหมาะกับมือใหม่ระดับเริ่ต้น ใช้ถ่ายภาพท่องเที่ยว เน้นความละเอียดสูง ถ่ายวีดีโอได้ดี มีฟีเจอร์ Film Simulate ข่วยให้การทำสีฟิล์มได้ง่าย จบในกล้องเลย

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท ถ่ายรูปสวย เน้นออกทริป ถ่าย VLOG สนุก [2019 Update]

สำหรับคนที่ชอบกล้อง Fujifilm รวมถึงกล้องสไตล์ Retro ตัว Fuji XT100 นั้นจะให้ฟิลลิ่งเหมือนกล้อง SLR นิด ๆ อารมณ์ย้อนยุค ถึงจะว่าอย่างนั้นประสิทธิภาพมันก็เหลือที่จะใช้ถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวีดีโอนิดหน่อย เน้นท่องเที่ยว แล้วก็ระบบเลนส์มีให้เปลี่ยนให้ใช้เยอะ เป็นกล้องที่ให้ความสนุกสำหรับการออกทริปเหมือนกัน

จุดเด่นที่น่าสนใจของ FUJI XT100

  1. ความละเอียดเพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่ง 24 ล้านพิกเซลนั้นจะใช้ถ่ายภาพแล้วก็อัพเฟซบุ๊คได้สบายมาก สามารถเอา RAW File มาแต่งให้สนุกได้เหมือนกัน
  2. หน้าจอรองรับการ Touch Screen สั่งงานได้สะดวก สำหรับมือใหม่
  3. การ Design ทำให้คนทั่วไปใช้กล้องได้สนุกมากขึ้น การออกแบบสวยเหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวมาก
  4. มีโหมด 4K Burst ใช้ถ่ายภาพต่อเนื่อได้ดีถ้าต้องการใช้ถ่ายต่อเนื่องนะ
  5. กล้องตัวนี้สามารถเอาไปต่อยอดได้ดี เพราะมีความละเอียดสูงและ Fujifilm มีระบบเลนส์ที่มีให้เลือกใช้เยอะมาก เลนส์มีให้ซื้อครบช่วง ราคาไม่สูง เลนส์มีความคมสวยเยอะ
  6. หน้าจอ 3 ways tilt lcd เป็นเลนส์ปรับมุมมองแบบ Fujifilm รุ่นพี่ ทำให้สามารถถ่ายภาพมุมมองหลาย ๆ แบบได้สะดวกมากกว่า
  7. มีโทนสี Film Simulate สามารถที่จะถ่ายภาพโทนฟิล์มให้จบจากในกล้องได้เลย

ข้อสังเกตของ FUJIFILM X-T100

  1. ถ่ายวีดีโอที่ใช้ได้จริง ๆ คือ Full HD แม้ว่าตัวกล้องจะถ่ายวีดีโอแบบ 4K ได้ แต่ก็ได้แค่ 15p ซึ่งความสามารถนี้เอามาขยายศักยภาพในการถ่ายภาพมากกว่า เช่นโหมด 4K Burst เป็นต้น
  2. ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้อง

FUJIFILM X-T100 + 15-45MM ราคา 18,900 บาท


3. FUJIFILM X-A7 กล้องมิลเรอร์เลสเซลฟี่รุ่นล่าสุด พร้อมจอพับที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น

Fujifilm X-A7 กล้องระดับเริ่มต้นในราคาที่จับต้องได้ ที่ถือว่าเป็นตระกูลขายดีมาก ๆ โดยเฉพาะในประเทศไทย สำหรับ Fujifilm X-A7 รอบนี้โดนเด่นตรงที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นมาก ในอัตราส่วน 16:9

จุดเด่นจริงๆ ของกล้องฟูจิคือการถ่าย Portrait ออกมาได้สวย แต่รอบนี้จะเน้นเรื่องของวีดิโอมากขึ้นถูกใจสาวๆ สาย Vlog เพราะนอกจากจะได้สกินโทนที่สวยแล้ว น้ำหนักยังเบา สามารถถือถ่ายได้สบายๆ พร้อมระบบโฟกัสที่รวดเร็วขึ้น สาย Type-C และ สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 30 FPS และยังเป็น Clean HDMI สามารถนำมา Live ได้อีกด้วย

จุดเด่นที่น่าสนใจของ FUJIFILM X-A7 

  • Sensor ขนาด APS-C ความละเอียด 24 MP
  • หน้าจอ LCD ขนาด 3.5” อัตราส่วน 16:9 รองรับระบบ Touchscreen
  • หน้าจอรูปแบบใหม่ Vario Angle
  • Skin Tone สวยงามเป็นธรรมชาติ
  • ติดตั้ง Joystick เพื่อควบคุมการทำงานแทน D-Pad
  • อัตราการถ่ายต่อเนื่อง 6 fps ถ่าย Video 4K
  • น้ำหนักเบาเพียง 320 กรัม จับถนัดมือ มีความคล่องตัวสูง

FUJIFILM X-A7 + 15-35MM ราคา 23,990 บาท สินค้าประกันศูนย์


4. SONY A6300 กล้องรุ่นเก่าหน่อย แต่ว่าคุ้มเรื่อของประสิทธิภาพ

กล้องรุ่นนี้เป็นกล้องรุ่นที่ออกมาก่อน Sony A6500 และ Sony A6400 ถึงแม้จะพูดแบบนั้นแต่ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ดรอปลงเลย และเคยเป็นกล้องที่อยู่ในกลุ่ม Flagship ด้วย กล้องตัวนี้ปัจจุบันราคาลงมาเยอะมากพอสมควร เรื่องของความละเอียดก็เยอะพอที่จะเท่ากับระดับกล้องในปัจจุบันแล้ว รวมถึงการถ่ายภาพต่อเนื่องก็ได้เยอะถึง 11 เฟรมต่อวินาที ก็เท่ากับกล้อง Flagship อีกต่างหาก รวมถึงวีดีโอ 4K ก็สามารถถ่ายได้ด้วย ระบบโฟกัสก็ทำได้ดี

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

จุดเด่นของ SONY A6300

  1. ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล เยอะเท่ากล้อง Flagship บนเซ็นเซอร์ APS-C ในปัจจุบัน
  2. ระบบโฟกัสทำได้รวดเร็ว 0.05 วินาทีก็โฟกัสได้แล้ว
  3. มีจุดโฟกัส 425 จุดเหมือนกับกล้อง Flagship ปัจจุบันหลายตัว
  4. ถ่ายวีดีโอ 4K ได้ พร้อมกับโปรไฟล์สี S-Log สำหรับ Grading สี
  5. น้ำหนักเบา บอดี้มีขนาดเล็ก
  6. มีช่องต่อไมโครโฟนแบบแยก ใช้อัพเกรดคุณภาพเสียงได้กรณีที่ต้องถ่ายวีดีโอเป็นหลัก
  7. ราคาคุ้มค่ามาก ๆ ในช่วงนี้
5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

ข้อสังเกตของ SONY A6300

  1. ถ่ายวีดีโอ 4K ต่อเนื่องสัก 10-15 นาที กล้องจะเริ่มร้อนแล้ว ถ้าถ่ายกลางแจ้ง 4K มีกล้องร้อนแน่นอน
  2. ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้อง
  3. จอพับ Selfie ไม่ได้ แต่ปรับมุมมองได้เฉย ๆ

SONY A6300 ราคา 22,990 บาท (ประกันศูนย์)


5. OLYMPUS OM-D E-M10 MARK III กล้องน้องเล็ก ขนาดเล็ก ที่อัดเทคโนโลยีให้เก่งเหมือนกล้องใหญ่ได้

กล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark III เรียกได้ว่าเป็นกล้องที่เปิดใจให้ผมย้ายจาก DSLR มา Mirrorless เลยก็ว่าได้ เพราะว่ากล้องตัวนี้แม้ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ขนาด micro 4/3 ที่เล็ก แต่ด้วยเพราะขนาดเล็กเลยทำให้ประสิทธิภาพหลายอย่างดีขึ้นแบบชัดเจน เช่น ระบบกันสั่นทำได้ดีกว่ากล้องเซ็นเซอร์ APS-C หรือ Full Frame พอสมควร เพราะน้ำหนักเซ็นเซอร์น้อยกว่า

อีกทั้งด้วยเป็นกล้องขนาดเล็กก็เลยทำให้ระบบโดยรวมทั้งหมดเล็กตาม เลนส์ก็เล็กกว่า น้ำหนักเบากว่า ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวสนุกมากกว่า ระบบโฟกัสเร็วขึ้นมาก เพราะเลนส์เล็ก น้ำหนักเบา ชุดมอเตอร์ก็ไม่ต้องทำให้ยุ่งยาก อีกทั้งฟังก์ชั่นการถ่ายรูปให้สวยเหมือนแบบโปรก็ทำได้ด้วยการปรับโหมดแค่กริ๊กเดียวแล้วกดชัตเตอร์ก็ทำได้เลย (มันทำได้จริง ๆ นะเพราะยุคนี้เทคโนโลยีไปอยู่ในอะไรมันก็ทำได้ทั้งนั้น)

จุดเด่นของ OLYMPUS OM-D E-M10 MARK III

  1. กล้องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ระบบโฟกัสทำได้รวดเร็ว ทำให้คนถ่ายรูปสนุกกับการเดินทางและถ่ายภาพมากขึ้น
  2. ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พอกับการถ่ายภาพทั่วไป อัพภาพ อัพลงเฟซบุ๊คสบาย
  3. ระบบกันสั่นทำได้ดี ในระดับที่ดีมาก ๆ เลย เพราะว่าเซ็นเซอร์มีขนาดเล็ก ทำให้เซ็นเซอร์น้ำหนักเบา กันสั่นได้ดี โดยเฉพาะ Olympus มีจุดเด่นเรื่องนี้
  4. ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี เพราะระบบกันสั่นชดเชย Shutter Speed ได้เยอะ ใช้ชัตเตอร์ต่ำ ๆ ได้โดยที่กล้องไม่สั่นไหว
  5. ระบบโฟกัสยอดเยี่ยม โฟกัสได้เข้าเป้าและรวดเร็ว
  6. เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่อยากจะยุ่งยากเรื่องการตั้งค่าอะไรให้วุ่นวาย เพราะกล้องมีโหมดที่ซัพพอร์ตให้มือใหม่ถ่ายภาพสวย ๆ ได้เลย

ข้อสังเกตของ OLYMPUS OM-D E-M10 MARK III

  1. เซ็นเซอร์เล็ก มีข้อจำกัดเรื่องคุณภาพไฟล์ในที่แสงน้อยถ้าหากแสงไม่พอ แต่สามารถชดเลยด้วยการถ่าย Shutter Speed ต่ำแล้วใช้ระบบกันสั่นแทน (เรื่องนี้เจอไม่บ่อย แต่ถ้าเจอก็ตามที่บอกนี่แหละ)
  2. ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล อาจจะรู้สึกน้อยไปหน่อยสำหรับหลาย ๆ คน

OLYMPUS OM-D E-M10 MARK III ราคา 26,990 บาท (เกินงบนิดหน่อย แต่ช่วงโปรราคาไม่เกิน 25,000 บาทมีให้เห็นบ่อยพอสมควร)


6. SONY A6400 กล้อง VLOG ที่สเปคเท่ากล้อง MIRRORLESS ระดับ SEMI PRO (กล้องเกินงบหน่อยแต่คุ้ม)

กล้อง Sony A6400 เป็นกล้องตัวใหม่ที่ Sony ได้นำเข้ามาในตลาดซึ่งรุ่นนี้ประสิทธิภาพโดดเด่นกว่า A6300 รุ่นก่อนหน้าเกือบไปแตะรุ่น A6500 ที่เป็น Flagship ของค่ายเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลทางการตลาดและ Position ของกล้อง A6400 ที่ต้องออกมาในกลุ่ม VLOG ก็เลยทำให้ยังอยู่ในระดับเริ่มต้นแต่สเปคหลุดมาเกือบจะรุ่นท็อปเลย

เหตุผลที่แนะนำกล้องนี้คือสำหรับคนที่รักประสิทธิภาพ ผมก็คงต้องยกให้กล้อง Sony แน่ ๆ เพราะเป็นกล้องที่ให้ทั้งระบบโฟกัสที่ดี ไฟล์ Sony ในระดับ APS-C ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้นเลย แล้วด้วยที่ความสามารถระดับกล้อง Semi Pro ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องศักยภาพรวมของตัวกล้องครับ

จุดเด่นของ SONY A6400

  1. ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน อัพภาพลงเฟซบุ๊ค เอาภาพไปพิมพ์ สามารถได้ภาพที่สวยงาม
  2. หน้าจอขนาด 3.0 นิ้ว ปรับมุมมองได้ สามารถที่จะถ่าย Selfie หรือว่า Vlog ก็ได้
  3. ถ่ายภาพต่อเนื่อง 11 FPS ต่อวินาที ความสามารถเท่ากล้องระดับ Sport ไปแล้ว
  4. จุดโฟกัส 425 จุด อันนี้คือสิ่งที่ Sony ทำออกมาได้ดีจริง ๆ และมีประสิทธิภาพที่สูงมาก
  5. ถ่ายวีดีโอความละเอียดระดับ 4K ได้ ซึ่ง Sony ทำได้ดีตั้งแต่รุ่น A6300 แล้ว
  6. มีช่องต่อ Microphone สำหรับทำ Video แล้วอัพเกรดประสิทธิภาพเสียงให้ดีขึ้นได้
  7. ระบบเลนส์ Sony มีให้ใช้ทั้ง APS-C และ Full Frame พร้อมกับมีเลนส์ Third Party ในตลาดแล้ว มีเลนส์ให้ใช้เพียบ
  8. ในช่วงราคานี้ ได้กล้องประสิทธิภาพเท่านี้คือค่อนข้างคุ้มค่ามาก ๆ แล้ว

ข้อสังเกตของ SONY A6400

  1. ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้อง

SONY A6400 ราคา 32,990 บาท


7. FUJIFILM X-A5 กล้องมิลเรอร์เลสเซลฟี่ ที่ท่องเที่ยวได้สนุก ดีไซน์สวย สีผิวเนียน เหมาะสำหรับผู้หญิงและคนชอบเที่ยวแบบชิค ๆ

กล้องสาย Selfie เน้นหน้าเนียนสวย แม้ว่าช่วงนี้กระแส Selfie ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักแล้วเพราะดูค่อนข้างเงียบไป แต่การท่องเที่ยวต้องบอกเลยว่าถ้าใครไม่ถ่ายเฟลฟี่เลยนี่น้อยมาก ๆ เพราะงั้นซื้อมาได้ใช้แน่นอน นอกจากนี้การถ่ายภาพแบบทั่วไปก็ยังทำได้ดี แล้วก็ออกไปทางดีมากด้วย (สำหรับคนทั่วไปนะ เอาไปเทียบกับกล้องโปรอาจจะคงไม่ใช่)

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

ถ้าหากมองในภาพรวม Fujifilm X-A5 เป็นกล้องที่เที่ยวสนุก ดีไซน์ให้ความหวาน การใช้งานที่ดู Casual เพิ่มขึ้นเยอะ หน้าตาการออกแบบดูสวยงาม พกสนุก ถ่ายภาพก็โอเคทั้ง Portrait และ Landscape มียังมีโหมดสีฟิล์มด้วย ก็เป็นกล้องตัวเด่นหนึ่งเหมือนกันสำหรับสายเที่ยวเข้ากันแน่นอนกับกล้องตัวนี้

5 กล้อง Mirrorless ไม่เกิน 25,000 บาท

จุดเด่นที่น่าสนใจของ FUJI XA5

  1. ความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล เพียงพอตอ่การใช้งานในทุกวัน
  2. มีโหมดถ่ายภาพนิ่ง 4K Burst ใช้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ดี
  3. หน้าจอพับสำหรับถ่าย Selfie เหมาะกับคนที่ต้องการถ่ายภาพตัวเอง
  4. มีโหมด Portrait Enhancer ทำให้สามารถถ่ายภาพได้สวยงามมากขึ้น
  5. มีระบบโฟกัสแบบ Eye AF และ Face Detection ทำให้โฟกัสได้แม่นยำ
  6. รองรับการสั่งงานผ่าน Touch Screen ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายสำหรับคนทั่วไป
  7. มีโหมด Macro ถ่ายภาพระยะใกล้

ข้อสังเกตของ FUJI XA5

  1. ถ่ายวีดีโอ 4K เป็นโหมดเสริมสำหรับภาพนิ่งมากกว่า เพราะถ่ายได้แค่ 15 เฟรม
  2. ไม่มีระบบกันสั่นภายในตัวกล้อง
  3. ไม่มีช่องเสียบไมโครโฟนสำหรับสาย VLOG

FUJIFILM X-A5 ราคา 19,990 บาท (ประกันศูนย์)

Logitech C922 กล้องเว็บแคมที่โคตรชัด!!!

ก่อนหน้านี้ผมเคยทำไลฟ์เฟสบุ๊คลงแฟนเพจอยู่บ้างประปราย แล้วแต่ความขี้เกียจ แต่ทุกครั้งที่ทำ จะประสบกับปัญหาที่แก้ไม่ตกซักที คือกล้องมันไม่ชัด! ตอนแรกก็คิดว่าเป็นที่อินเตอร์เน็ตเราหรือเปล่าว๊า พอไปลองอัพอินเตอร์เน็ตให้ได้ความเร็ว 70/30 Mbps มันก็ยังไม่หาย ในใจก็คิดว่า เห้ย! นี่อัพโหลด 30Mbps แล้วนะ มันควรต้องชัดแล้วสิ พอลองหาข้อมูลไปหาข้อมูลมา เลยเข้าใจว่า อ้อ! ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่อินเตอร์เน็ต ปัญหามันอยู่ที่กล้องเว้ย!

คือก่อนหน้านี้ ผมใช้กล้องเว็บแคมกากๆ แบบที่หาซื้อได้ในราคาไม่เกินพันนั่นแหละ พอเอามาลองใช้แรกๆมันก็ไม่ชัด อันนี้ก็เข้าใจได้ เลยลองเอากล้อง Fuji X-E2 มาทำเป็น Live Preview แล้วส่งภาพมาที่คอมพิวเตอร์ ปรากฏว่าตระกูล Fuji นี่ทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าได้ต้องเป็นรุ่น T10 ขึ้นไป(ถ้าจำไม่ผิดนะ)

การแก้ปัญหาต่อมาคือ ลองใช้ไอโฟนซิ เอาไอโฟนนี่แหละเป็นกล้องมันซะเลย ก็เวิร์คในระดับหนึ่ง แต่มันยังไม่ใช่แบบที่ต้องการ

ท้ายสุดเลยไปเจอในเว็บต่างประเทศ รีวิวกล้องเว็บแคมตัวหนึ่งของ Logitech รุ่น C922 ว่าเป็นกล้องเว็บแคมที่ถ่ายได้ในระดับความคมชัด 1080 ที่ 30fps เลยทีเดียว หรือถ้าอยากได้สมูธหน่อย ก็ 720 ที่ 60fps  เลย ตอนนั้นในใจคิดว่า นี่แหละ! ที่กูต้องการ!! สุดท้ายก็ไปสรรหามาครอบครองจนได้ เดี๋ยวมารีวิวกันเลยดีกว่าว่า มันดียังไง และคุ้มมั้ย

LOGITECH C922 PRO STREAM WEBCAM

แค่ชื่อรุ่นก็รู้แล้ว ว่ากล้องเว็บแคมนี้ออกแบบมาสำหรับนักแคสเกมส์หรือคนที่ต้องการใช้งานเว็บแคมระดับสูง ความสามารถของมันที่ผมเห็นแล้วทำให้ตัดสินใจซื้อได้เลยคือ การถ่ายด้วยความละเอียด 1080p ที่ 30fps นี่แหละ

กล่องก็จะไม่ใหญ่มาก ใหญ่กว่าฝ่ามือนิดหน่อย โดยในกล่องจะมีแถม Premium License ของโปรแกรม Xsplit มาให้ 3 เดือน (ผมยังไม่ได้ลองใช้นะ)

 

แกะกล่องออกมาก็จะพบกับพระเอกของเรา ที่จริงกล่องมันดูใหญ่กว่าตัวกล้องจริงๆมาก ตัวกล้องนั้นเล็กกว่าฝ่ามืออีก มีขาจับอีกนิดหน่อย คือเท่าที่เห็นเลย

 

ในกล่องก็จะมีขาตั้งกล้องมาให้ อันที่อยู่ในห่อพลาสติกด้านขวานั่นแหละ

 

ตัวกล้องแบบชัดๆ ด้านหน้าจะเขียน HD1080p ซึ่งชัดมากกกกในระดับของเว็บแคม

 

มุมด้านข้างของตัวกล้อง จะมีขาจับที่เราสามารถยืดออกมาแล้วปรับให้วางกับโต๊ะ หรือเหน็บกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้แบบพอดีมาๆ

 

อันนี้ถ้าวางกับโต๊ะแล้วจะเป็นแบบนี้ เราจะสามารถปรับความสูง มุมเอียง มุมมองได้

วางกับโต๊ะแบบยืดสูงขึ้นหน่อย

ส่วนนี่คือภาพที่ได้ตอนผมใช้ไลฟ์เกมส์ โดยใช้คู่กับร่มแสง LED ซึ่งก็ออกมาชัดมากกกกก ดูโปรขึ้นเยอะเลย

สนนราคาที่ผมซื้อมาคือ 3,990 บาท แพงกว่ากล้องเว็บแคมธรรมดา แต่นี่ไม่ใช่กล้องเว็บแคมธรรมดานะอย่าลืม สำหรับผมแล้ว โคตรแฮปปี้เลยที่ตัดสินใจซื้อ เพราะตอบโจทย์ทุกอย่างเลย โดยกล้องตัวนี้มีไมค์อยู่ในตัวด้วย ปกติผมจะมีระบบไมค์อย่างดี แต่พอลองใช้กล้องนี้ ผมแค่เสียบกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์ แค่นั้นจบเลย ไม่ต้องต่อไมค์อื่นให้วุ่นวาย เสียงที่ออกมาก็ชัดมาก

10 กล้องถ่ายรูปเจ๋งๆ ที่เหล่าเน็ตไอดอลนิยมใช้

สาวๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพหรือเซลฟี่ สงสัยมั้ยว่าทำไมบรรดา “เน็ตไอดอล” ถึงถ่ายรูปออกมาสวยเเละดูดี ทำไมรูปเราถึงถ่ายออกมาแล้วช่างแตกต่างขนาดนี้ และคงไม่มีใครชอบกล้องที่ใช้งานยุ่งยากต้องมานั่งปรับภาพปรับแสงอะไรดูวุ่นวาย เสียเวลา อยากได้กล้องที่แบบถ่ายปุ๊บสวยปั๊บอัพรูปได้ทันที วันนี้เรามี 10 กล้องถ่ายรูปเจ๋งๆ ที่เรียกว่าถ่ายรูปแล้วเป๊ะปัง อลังเว่อร์ ของเหล่าเน็ตไอดอลที่นิยมใช้กัน มาบอกต่อให้สาวๆ ลองพิจารณาเผื่อไปสอยมาไว้ข้างกาย

1. Panasonic GF7

สำหรับรุ่นนี้น่าจะเป็นที่ถูกใจของสาวๆ ด้วยขนาดที่ค่อนข้างเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา สามารถพกพาได้สะดวก ดีไซน์วินเทจนิดๆ มีสีให้เลือกหลายหลาย เช่น ขาว ดำ น้ำตาล มีสีชมพูด้วยนะ เซ็นเซอร์ 16 ล้านพิกเซล จอ Touchscreen ที่สามารถพับขึ้นเพื่อเซลฟี่ได้ และฟังก์ชั่นในการถ่ายรูปเซลฟี่เก๋ๆ เช่น บีบให้ดูผอม โบกมือเพื่อลั่นชัตเตอร์ หรือฟังก์ชั่นถ่ายภาพกระโดด ที่กล้องจะกดชัตเตอร์ให้อัตโนมัติตอนเรากระโดษ และยังสามารถสั่งลั่นชัตเตอร์ผ่านสมาร์ทโฟน และเชื่อมต่อเพื่อส่งรูปผ่าน wi-fi ได้อีกด้วย

2. Fuji-XA3

กล้องมิลเลอร์เลส FUJIFILM X-A3 มาพร้อมดีไซน์แบบเรโทรที่เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มเจเนอเรชั่นใหม่ๆ เพราะดีไซน์แบบเรโทรให้ความรู้สึก “แตกต่าง” และ “ทันสมัย” ซึ่งเป็นที่นิยมของสาวๆ เป็นอย่างมากด้วยยอดขายที่ถล่มทลายมองไปทางไหนก็เห็นแต่สาวๆ ใช้รุ่นนี้กันทั้งนั้น

3. FUJIFILM X-A2

ถ้าไม่พูดถึงนี่ไม่ได้จริงๆ เรียกได้ว่าขึ้นหิ้งเป็นตัวท็อปไปแล้วสำหรับรุ่นนี้ เพราะในตลาดกล้องของประเทศไทยรุ่นนี้สามารถทำยอดขายถล่มทลาย ขึ้นเป็นอันดับ 1 คนมีชื่อเสียงก็นิยมใช้กันเยอะ เช่น เน็ตไอดอลชื่อดังอย่างพิมฐา, แป้งโกะ ในส่วนของการทำงาน ตัวนี้มาพร้อมเซนเซอร์รับภาพความละเอียด 16.3 megapixel หน้าตาของกล้องก็ดูดีสไตล์เรโทรและเป็นรุ่นแรกของฟูจิที่จอสามารถพับได้ เหมาะมากสำหรับการถ่ายภายตัวเอง ไฟล์รูปที่ได้ผิวสวยนวล อมชมพู ถูกใจขา Selfie อีกทั้งยัง Built- In Wifi แชร์รูปเข้ามือถือได้ทันที และมีฟังก์ชั่นโหมดสีแบบฟิล์ม (Film Simulation) ที่ปรับสีภาพให้ดูเหมือนถ่ายจากฟิล์มเก่ายุคคลาสสิคของฟูจิ ได้รูปที่สวยแปลกตา ไม่ซ้ำใครแน่นอน

4. Olympus OM-D E-M10

OM-D E-M10 กล้องมิเรอร์เลสระบบ Micro 4/3 ของ Olympus เน้นงานออกแบบที่ดูสวยคลาสสิกในสไตล์เรโทร เก็บภาพได้คมชัดด้วยความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล พร้อมใช้เซ็นเซอร์ภาพแบบ Live MOS ช่วยให้ได้ภาพที่สวยสมจริงสุด ๆ สามารถเก็บภาพต่อเนื่องได้ 5 ภาพต่อวินาที แถมมีตัวกันภาพสั่นไหวแบบ 3 แกนด้วย มี Wi-Fi บิวท์อินไว้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

5. SONY A5100

ถ่ายภาพด้วยโฟกัสเหลือเชื่อ ระบบ Fast Hybrid AF ที่มี 179 จุด ผนวกกับโฟกัสแบบสัมผัสง่ายๆ ช่วยให้ภาพของคุณสวยเนียนระดับมืออาชีพ หรือเข้าใจง่ายๆ เลยก็คือโฟกัสรวดเร็ว เชื่อมต่อ Wi-Fi และอัพโหลดรูปลงได้เลยสะดวกรวดเร็วจริงๆ

6. Olympus EPL-7

กล้องตัวนี้เป็นเซนเซอร์ CMOS ขนาด Four Thirds ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซลมีกันสั่น 3 แกนช่วยให้ภาพสั่นไหวน้อยลง วัสดุส่วนใหญ่เป็นพลาสติกคุณภาพสูงทำลวดลายให้คล้ายหนัง ผสมกับอะลูมิเนียม ขนาดค่อนข้างเล็กมาก น้ำหนักเบา พกพาง่าย จับกระชับมือ ดีไซน์สวยงามผสมผสานระหว่างความวินเทจและโมเดิร์นได้ลงตัว มีระบบกันสั่น 3 แกนช่วยให้ภาพสั่นไหวน้อยลง หน้าจอทัชสกรีนได้ สามารถสั่งงานต่างๆเช่น เเตะเลือกจุดโฟกัส ปรับตั้งค่ากล้อง เลื่อนดูรูป หรือกดชัตเตอร์ได้ง่ายๆ อีกจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Olympus EPL7 แตกต่างจากรุ่นอื่นๆในตลาด คือหน้าจอของรุ่นนี้ จอพับเซลฟี่ลงไปด้านล่าง

7. Olympus OM-D E-M5 Mark II

OM-D E-M10 กล้องมิเรอร์เลสระบบ Micro 4/3 ของ Olympus เน้นงานออกแบบที่ดูสวยคลาสสิกในสไตล์เรโทร เก็บภาพได้คมชัดด้วยความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล พร้อมใช้เซ็นเซอร์ภาพแบบ Live MOS ช่วยให้ได้ภาพที่สวยสมจริงสุด ๆ สามารถเก็บภาพต่อเนื่องได้ 5 ภาพต่อวินาที แถมมีตัวกันภาพสั่นไหวแบบ 3 แกนด้วย มี Wi-Fi บิวท์อินไว้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

8. Panasonic GX8

สเปคจัดเต็มด้วยเซนเซอร์ Micro 4/3 ความละเอียด 20.3 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่นในตัวกล้อง ระบบออโต้โฟกัส 49 จุด ให้ภาพคุณภาพสูงระดับมืออาชีพ สามารถถ่ายวิดิโอคมชัดแบบ 4K ได้ ที่สำคัญตัวนี้มาพร้อมจอแบบทัชสกรีนที่หมุนอิสระ บิดพับได้หลายองศา จะหันมาด้านหน้าเพื่อถ่ายรูป Selfie ก็มีโหมดภาพ Soft Skin สำหรับแต่งหน้าเนียน ฟรุ้งฟริ้ง หรือบีบหน้าให้พร้อมเพรียวก็ทำได้ มีช่องมองภาพ หรือ วิวไฟน์เดอร์แบบอิเล็คทรอนิก ที่ยกตัวขึ้นด้านบนแบบพับได้ (Tilting) เหมาะมากๆกับคนที่ชอบถ่ายภาพแนวสตรีทหรือท่องเที่ยว บอดี้กล้องทนทาน สวยงาม กันละอองน้ำและฝุ่น รองรับ Wi-Fi และ NFC ในการเชื่อมตัวกับสมาร์ทโฟน

9. Canon EOS M3

รุ่นนี้การออกแบบเน้นความเรียบง่ายในการใช้งาน ปุ่มไม่เยอะ ควบคุมการทำงานต่างๆผ่านหน้าจอทัชสกรีนที่พับได้ 180 องศา สะดวกต่อการถ่ายภาพ Selfie มาพร้อมจำนวนพิกเซลสูงสุด 24.2 ล้านพิกเซล มี Flash ในตัว และมีช่อง Hotshoe สำหรับใส่อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมได้ เช่น ช่องมองภาพ ( Viewfinder) ตัวนี้ขนาดถือว่าเล็กมาก น้ำหนักเบา พกพาง่าย ใส่กระเป๋าได้สบายๆ มี Grip ยื่นออกมาให้จับถนัดมือ รองรับการเชื่อมตัวแบบ Wi-Fi และ NFC เช่นกัน

10. Canon EOS M10

ตัวนี้ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวกดีไซน์เรียบเท่แบบมินิมอล น้ำหนักเบาเพียง 301 กรัม มีเคสกล้องให้เลือกใช้สีสันสดใส หน้าจอขนาด 3 นิ้วแบบ touchscreen ที่ตอบสนองต่อการใช้งานดีมาก สามารถพับได้เพื่อการถ่าย Selfie ซึ่งมีฟังก์ชั่นสนับสนุนที่น่าใช้งาน เช่น ปรับความเนียนของผิว ที่ทำได้ถึง 3 ระดับ , เพิ่มความสว่างใสให้ใบหน้า รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ NFC

สาวๆ สายเซลฟี่ใครชอบตัวไหน ฟังชั้นก์แบบไหน ก็ลองไปเลือกไปซื้อไปจับจองกันดูนะคะ

เปลี่ยนกล้อง CANON เป็นเว็บแคมสำหรับ Work From Home

ใครที่ใช้กล้องเว็บแคมสำหรับ Work From Home แต่รู้สึกไม่ตอบโจทย์ซูมไม่ได้ ภาพไม่ชัด ความละเอียดน้อยเกินไป วันนี้มีโปรแกรมมาแนะนำ สำหรับเปลี่ยนกล้อง CANON ให้เป็นเว็บแคมได้

ช่วงนี้หลายคนทำงานที่บ้านส่งผลให้กล้องเว็บแคมกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในการประชุมงานผ่านวิดีโอคอล แต่กล้องเว็บแคมเองก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ซูมไม่ได้ เวลาใช้งานในที่แสงน้อยภาพอาจจะมืด เป็นต้น บางคนไม่อยากเสียเงินซื้อใหม่ก็ทนใช้ไปก่อน

ข่าวดีสำหรับคนที่ใช้กล้องของ CANON ตอนนี้เขาพัฒนาแอปสำหรับเปลี่ยนให้กล้องของตัวเองสามารถใช้งานเป็นเว็บแคมกับคอมพิวเตอร์ได้ แอปนี้มีชื่อว่า EOS Webcam Utility Beta สามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่เป็น 64-bit  นอกจากนั้นยังสามารถใช้งานได้เฉพาะบางรุ่นก่อนซึ่งเวลาใช้งานเราต้องต่อสาย USB กับคอมพิวเตอร์

ส่วนรุ่นที่สามารถใช้งานได้นั้นมีรายชื่อตามภาพด้านล่างเลยค่ะ รองรับทั้งตระกูล DSLR, Mirrorless และ PowerShot แต่กล้องบางรุ่นนั้นจะไม่ได้แถมสาย USB มาให้ในกล่อง เราอาจจะต้องไปหาซื้อมาเพิ่มก่อนถึงจะใช้งานได้

ข้อดีก็คือใครมีเลนส์ดีๆ รู้รับแสงกว้างๆก็เอามาต่อกับกล้อง ภาพที่ได้จะสว่างคมชัดขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับเว็บแคม ที่สำคัญยังสามารถใช้เป็นกล้องสำหรับทำ Live Stream ได้ด้วย

ใครสนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่ต้องบอกก่อนว่าเนื่องจากตัวโปรแกรมนั้นยังเป็นเวอร์ชันทดสอบอยู่ จึงอาจจะมีบั๊กอยู่บ้าง หากใครเจอข้อผิดพลาดในการทำงานตรงไหนก็แจ้งเข้าไปได้ทาง Canon Forum ทางทีมงานจะได้นำไปปรับปรุง พัฒนาการใช้งานให้สมบูรณ์ขึ้นในเวอร์ชันถัดๆไป

ที่มา NewAtlas

แนะนำกล้อง webcam เพื่อใช้ในการถ่ายทอดสด

การซื้อกล้องเว็บแคมซักตัวเปรียบได้กับการซื้อรถมือสองดี ๆ นี้เอง อาจจะได้เจอกล้องดีตรงใจ หรือจบลงด้วยกล้องคุณภาพห่วยที่ไม่น่าเสียเงินซื้อมาใช้ แต่การหลีกเลี่ยงการเจอพวกเว็บแคมห่วย ๆ เราสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการศึกษาข้อมูลของกล้องกันซักนิด ตั้งแต่ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ คุณภาพของวัสดุ เทคโนโลยีเบื้องหลัง คุณสัมบัติต่าง ๆ ของตัวเว็บแคมที่เราจะซื้อ โดยวันนี้เรารวมตัวท็อป ๆ ที่ไม่ว่าจะซื้อตัวไหนไปก็เหมาะกับการนำไปไลฟ์วีดีโอคุณภาพสูงแบบสบาย ๆ

 

Logitech C920 HD Pro Webcam

กล้องเว็บแคม C920 HD Pro webcam ถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท Logitech รองรับการบันทึกภาพด้วยความละเอียด 1920 x 1080 หรือแบบ Full HD 1080p มาพร้อมกับเทคโนโลยีสำหรับเพิ่มความคมชัดของภาพ Logitech Fluid Crystal ข้างตัวกล้องมีไมโครโฟนระบบเสียงสเตอริโอสองข้าง สามารถอัพวีดีโอเข้าบนยูทูปเพียงแค่คลิกเดียว  การถ่ายภาพนิ่งความละเอียด 15 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งานทุกโปรแกรมดังอย่าง Skype, Yahoo และอื่น ๆ

Microsoft LifeCam Studio 1080 HD Webcam

กล้อง LifeCam Studio ผลิตโดยบริษัท Microsoft ความระเอียด Full HD 1080p พร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ แบบจัดเต็มอย่าง Auto Focus ที่จับภาพใบหน้าแบบอัจฉริยะ และ TrueColor ทำให้ภาพที่บันทึกออกมามีสีที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม นอกจากนี้ยังมี Clear Frame อีกด้วย ตัวกล้องมาพร้อมไมโครโฟนคุณภาพสูง ออกแบบมาเพื่อใช้กับ Skype โดยเฉพาะสามารถใช้งานกับ Microsoft Lync ระบบกล้องมีหน่วยความจำเฉพาะถึง 4 GB เหมาะสำหรับการสตีมมิ่งความคมชัดสูง เป็นกล้องระดับ 5 ดาวของเหล่า Youtuber

Mevo Live Event Camera

กล้อง Live Event Camera สร้างโดยบริษัท Mevo สำหรับใช้งานในระบบ iOS ที่ทำงานในเวอร์ชั่น iOS 9 หรือสูงกว่าขึ้นไป เป็นกล้องตัวแรกที่สามารถใช้สตีมผ่าน Facebook Live ได้โดยตรง สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวความชัดแบบ 720P ผ่านระบบ Wi-Fi หรือ LTE มีไมโครโฟนฝังอยู่ภายในเหมือนกล้องทั่วไป

uCorder IRDC250 Wearable Video Camera

เป็นกล้องบันทึกภาพของ uCorder ถูกออกแบบมาเพื่อพกพาไปไหนได้อย่างสะดวก ด้วยภาพที่บันทึกได้ในความละเอียด 640 x 480 แบบ 25fps มาพร้อมกับความจำในระบบ 2 GB มีน้ำหนักเพียงแค่ 1 ปอนด์เท่านั้น

ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้อยากได้แบบไหน บางตัวก็มีขนาดใหญ่ แต่บันทึกภาพได้แบบ Full HD 1080p ในบางตัวก็มีในขนาดที่กะทัดรัด แต่ต้องแลกมาด้วยความคมชัดทีต่ำกว่า ถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ได้เดินทางไปไหนบ่อย ๆ หรือใช้งานบนคอมพิวเตอร์ที่บ้านเป็นหลัก ก็ขอแนะนำตัวใหญ่อย่าง Logitech จะดีกว่า ถือเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในตลาด

Razer Kiyo Webcam กล้องเว็บแคมเซลฟี่ มีดีหน้าไม่มืด

Razer Kiyo Webcam กล้องเว็บแคมเซลฟี่ อีกหนึ่งไอเท็มที่สายสตรีมต้องมี ด้วยการออกแบบกล้องเว็บแคมในรูปแบบใหม่ มีไฟสำหรับส่องหน้าผู้เล่นในตัวทำให้ทุกภาพที่สตรีมหรือไลฟ์สด สว่างสดใส หมดปัญหาเรื่องหน้ามืดไปได้เลย ให้คุณภาพของภาพที่สวยงาม โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์



Razer Kiyo Webcam กล้องเว็บแคมเซลฟี่ จากค่าย Razer เจ้าใหญ่แห่งวงการเกมเมอร์ที่หลายคนรู้จักกันดี ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์คอเกม คอสตรีมมิ่งหรือผู้ที่ต้องการไลฟ์สดหน้าจอ ตัวอุปกรณ์ดีไซน์เป็นวงแหวนกลม ๆ ส่วนขาหนีบสามารถคลี่ออกเพื่อติดตั้งเข้ากับหน้าจอมอนิเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือมอนิเตอร์คอมฯ พีซีได้อย่างง่ายดาย มาในโทนสีดำ

ตัวเลนส์กล้องถูกออกแบบให้อยู่บริเวณตรงกลางของวงแหวน ส่วนรอบ ๆ เลนส์กล้อง เป็นหลอดไฟ LED แบบวงแหวน (Ring Light) สำหรับส่องสว่าง ลดเงา ให้กับใบหน้าของผู้อยู่หน้าจอได้เป็นอย่างดี หลอดไฟ LED สามารถปรับระดับความสว่างได้ ด้วยการหมุนบิดบริเวณขอบด้านนอกของตัวกล้อง

รายละเอียด Razer Kiyo Webcam กล้องเว็บแคมเซลฟี่
– ความละเอียดของการบันทึกวีดีโอ 360p,480p,1080p ที่ 30FPS และ 720p 60fps
– ความละเอียดสำหรับภาพนิ่ง 4 MP 2688×1520 px
– รองรับการเชื่อมต่อกับพอร์ต USB 2.0
– มุมกล้องสามารถเก็บภาพได้กว้างถึง 81.6 องศา
– การโฟกัสแบบอัตโนมัติ หมดกังวลเรื่องการโฟกัสไม่เข้า หรือโฟกัสผิดพลาด
– ความยาวของสายเชื่อมต่อ 1.5 เมตร
– ไฟวงแหวน 12 ดวง สีขาว อุณหภูมิแสง 5600K ความสว่าง 10 lux/m
– วงแหวนปรับระดับแสง สามารถปรับได้ 12 ระดับ
– รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7 หรือรุ่นที่สูงกว่า
– มีไมโครโฟนแบบ Omnidirectional (รับเสียงรอบทิศทาง) ในตัว

บางคนยังไม่รู้เกี่ยวกับกล้องเว็บแคม

ปัจจุบันกล้องเว็บแคมเป็นอุปกรณ์สำหรับเหล่าเกมส์เมอร์และสตรีมเมอร์ที่ขาดไม่ได้  และกล้องเว็บแคมไม่ใช่ว่าจะเหมือนกันหมดทุกตัว แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อจะมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามแต่ผู้ผลิตจะคิดค้นและออกแบบมาให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างไร ซึ่งสามารถแบบประเภทของเว็บแคมได้ดังนี้

แบ่งตามรูปทรงของกล้อง 
โดยปกติกล้องเว็บแคมส่วนใหญ่จะเป็นทรงกลม เนื่องจากเป็นรูปทรงต้นแบบที่ทำกันมานานและก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่านี้คืออุปกรณ์ เว็บแคม แต่ไม่จำเป็นที่กล้องเว็บแคมต้องเป็นทรงกลมเสมอไป
เพราะบางครั้ง กล้องเว็บแคม ก็จำเป็นต้องมีรูปทรงอื่นๆ เพื่อให้เข้ากับการใช้งานในบางลักษณะ ดังนั้น การเลือกรูปทรงให้เหมาะสมนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของเรามากกว่า

แบ่งตามประเภทของขาตั้งกล้อง 
โดยส่วนใหญ่ลักษณะของฐานตั้งกล้องจะเป็นแบบตั้งพื้นเสียส่วนใหญ่ โดยแบบแรก คือแบบมีขาสำหรับวางบนพื้น อาจจะมีขา 3 ขา หรือ 4 ขา ก็แล้วแต่การออกแบบ แต่ฐานแบบ 3 ขา จะมี ปัญหาตรงที่ วางแล้วยังไม่มั่นคงดีนัก และไม่สามารถหมุนตัวกล้องได้สะดวกนัด ดังนั้น ถ้าต้องการเว็บแคมที่มีฐานมั่นคงและสามารถหมุนได้ง่ายๆ ก็ต้องเลือกแบบฐานทรงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งแบบนี้จะมีข้อดีตรงที่ วางได้มั่นคงและยังสามารถหมุนแกน ของตัวกล้องได้ไม่จำเป็นต้องยกตัวกล้องหมุนไปมาให้เสียเวลา

แบ่งตามชนิดของเซ็นเซอร์ 
สำหรับเซ็นเซอร์ที่กล้องเว็บแคมใช้นั้นจะมีหลักๆอยู่ 2 ชนิด คือ CCD และ CMOS แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ CMOS เนื่องจากเหตุผลหลายๆประการและตัวเซ็นเซอร์ แบบ CMOS เองก็สามารถแบบออกได้ถึง 2 ชนิดด้วยกันคือ
CLF Color CMOS Censor ที่มีความละเอียดของพิกเซลแค่ 110,000 พิกเซล ( 367 x 291 ) เท่านั้น ในขณะที่ VGA Color CMOS Censor ให้ความละเอียดที่สูงกว่าที่ 350,000พิกเซล ( 655 x 493 ) ดังนั้น เวลาเลือกซื้อกล้องเว็บแคมก็ดูได้ทั้งความละเอียดที่ระบุไว้ หรือชนิดของ CMOS สำหรับเซ็นเซอร์แบบ CCD จะเป็นเซ็นเซอร์ที่นิยมใช้ในกล้องดิจิตอล เพราะให้ความ
ละเอียดที่สูงกว่าและก็มี noise ไม่มากเหมือนกับเซ็นเซอร์แบบ CMOS

แบ่งตามรูปแบบการเชื่อมต่อ 
สำหรับการเชื่อมต่อของกล้องเว็บแคมในปัจจุบันส่วนใหญ่ จะเป็นอินเทอร์เฟซแบบ USB แทบทั้งสิ้นโดย USB ที่ใช้ก็จะเป็นเวอร์ชัน 1.1 เสียส่วนมาก แต่ก็จะมีเวอร์ชัน 2.0 ในบางรุ่นกล้องเว็บแคมแบบไร้สายจะใช้การเชื่อมต่อในแบบ WiFi หรือ Wireless lan นั่นเองทำให้สามารถเคลื่อนย้ายไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องคำนึงถึงสายให้วุ่นวาย แต่เว็บแคมที่เป็น Wireless ตอนนี้ก็ยังมีราคาค่อนข้างแพงอยู่

การเลือกซื้อกล้องเว็บแคม 
ขั้นตอนแรกเราต้องรู้ว่าจะนำกล้องเว็บแคม มาใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ประเภทใด ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กก็ต้องเป็นกล้องเว็บแคม
ขนาดเล็กกะทัดรัด และสามารถติดตั้งบนจอแอลซีดีของโน้ตบุ๊กได้ แต่ถ้าใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปก็ แนะนำรุ่นที่มี
ขาตั้งที่มั่นคงสามารถวางบนจอมอนิเตอร์

เมื่อเลือกรูปแบบของกล้องได้แล้ว ก็มาเลือกตามคุณสมบัติภายในของกล้องเว็บแคมโดยเลือกจากชนิดของเซ็นเซอร์ที่ใช้กับภาพ โดยจะมีให้เลือกเป็น CMOS ในแบบ CIF และ VGA ซึ่งแนะนำว่าเป็นแบบ VGA จะให้ความละเอียดที่สูงกว่า หรือถ้าต้องการความละเอียดที่มากกว่านี้ ก็เลือกเซ็นเซอร์แบบ CCD จะดีกว่าแต่ทั้งนี้ราคาก็จะเพิ่มสูงขึ้น ตามชนิดของเซ็นเซอร์ และ
ความละเอียดของตัวกล้องเว็บแคม