Slider
ดูหนังเอเชีย

Blog

วิธีการใช้กล้องถ่ายภาพวิดีโอของ Sony เป็น Web cam ด้วยการเชื่อมต่อกับ composite video หรือ S-video.

วิธีการใช้กล้องถ่ายภาพวิดีโอของ Sony เป็น Web cam ด้วยการเชื่อมต่อกับ composite video หรือ S-video.

ข้อสำคัญ: เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นจะต้องมีขั้วแจ็คอินพุทแบบ composite Video หรือ S-Video และใช้งานร่วมกันได้กับซอฟต์แวร์ webcam ที่ติดตั้งเข้าไป เครื่องคอมพิวเตอร์บางเครื่อง จะต้องใช้การ์ด Video capture และ/หรือ การ์ดเสียง

ขั้วแจ็คอินพุท

หมายเหตุ: ขั้นตอนนี้ไม่สามารถดำเนินการได้เมื่อใช้แบตเตอรี่ของกล้องบันทึกวิดีโอเป็นแหล่งจ่ายกำลังไฟ. ถ้าหากกล้องบันทึกภาพวิดีโอนั้นเปิดอยู่ แต่ไม่ทำการบันทึก หรือ เล่นเทป, เครื่องจะปิดไปเองโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไป 5 นาที เพื่อเป็นการประหยัดกำลังงานของแบตเตอรี่. นอกจากนี้, โปรดรับทราบว่า ขั้นตอนนี้อาจจะไม่ทำงานกับกล้องบันทึกภาพวิดีโอโซนี่ทั้งหมด แม้ว่า ใช้กับ AC power adapter ก็ตาม. เครื่องบางรุ่นจะมีโหมดสาธิตอัตโนมัติ ที่จะเปิดขึ้นมาหลังจาก 5 นาที ถ้าหากเปิดกล้องขึ้นมา และ ไม่มีการบันทึก หรือ เล่นเทป

1.เสียบ AC power adapter สำหรับกล้องบันทึกภาพวิดีโอ เข้ากับเต้ารับไฟที่ใช้งานได้ และ จากนั้น เชื่อมต่อเข้ากับกล้องบันทึกภาพวิดีโอ.
2.เชื่อมต่อสาย composite video หรือ S-Video เข้ากับแจ็ค VIDEO หรือ S-VIDEO บนตัวกล้องบันทึกภาพวิดีโอ
หมายเหตุ:
กล้องบันทึกภาพวิดีโอของโซนี่ ปกติจะมีสาย composite Audio/Video ให้มาด้วย; สาย S-Video จะมีแยกจำหน่ายให้ต่างหาก
3.เชื่อมต่อปลายสายด้านหนึ่งของสาย composite video หรือ สาย S-Video เข้ากับขั้วแจ็ค VIDEO IN หรือ S-VIDEO IN ของเครื่องคอมพิวเตอร์
4.เปิดกล้องขึ้นมาโดยการขยับสวิทช์ POWER ไปที่ตำแหน่ง CAMERA.
5.นำตลับเทปคาสเซทออกจากกล้องบันทึกภาพวิดีโอ.
6.เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมา
7.เริ่มการทำงานของแอปพลิเคชัน webcam.
หมายเหตุ:  สอบถามกับผู้ผลิตซอฟต์แวร์ เพื่อขอความช่วยเหลือในการเซ็ตอัป หรือ ใช้ซอฟต์แวร์ webcam นั้น

จุดเสี่ยงที่ควรติดตั้งกล้องวงจรปิด

หลายๆคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “เดี๋ยวนี้โจรชุมยิ่งกว่ายุง” ซึ่งแน่นอนว่าคำๆนี้เปรียบเทียบว่าโจรมีมายมายเหลือเกิน ทั้งโจรแบบเข้ามาลักขโมยสิ่งของภายในบ้าน หรือโจรกระชากสร้อย และแม้แต่โจรในคราบคนดีที่หลอกต้มตุ๋นเงิน จึงทำให้คนสมัยนี้ต้องระมัดระวังอันตรายอยู่ตลอดเวลา และแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเห็นการณ์ถูกโจรปล้นอย่างแน่นอน หลายๆคนจึงนำเอาเทคโนโลยีอย่างกล้องวงจรปิดมาติดตั้งเพื่อเป็นหลักฐานมัดตัวโจรนั่นเอง แต่จะดีกว่าหรือไม่ถ้ารู้จักติดกล้องวงจรปิดในจุดที่เสี่ยง ซึ่งจะมีประโยชน์คุ้มค่ากว่าการติดไปลอยๆ โดยจุดเสี่ยงที่ควรติดตั้งกล้องวงจรปิด มีดังนี้

บริเวณหลังบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าโจรเข้ามาทางประตูหน้าบ้านนั้น คุณและเพื่อนบ้านจะต้องเห็นเหตุการณ์แน่นอน อีกทั้งกรณีอาชญากรรมส่วนใหญ่โจรมักเข้าทางหลังบ้านเพราะไม่มีใครพบเห็น อีกทั้งยังซ่อนตัวได้ง่ายอีกด้วย โดยกล้องวงจรปิดที่จะติดตั้งบริเวณนี้ควรเป็นกล้องวงจรปิดแบบอินฟาเรด เพราะสามารถเก็บเหตุการณ์ในขณะที่แสงน้อยได้นั่นเอง

CCTV1

บริเวณโรงจอดรถ ทรัพย์สินมูลค่าหลายแสนบาทของคุณจะต้องเป็นที่ต้องตาหมายปองของเหล่าโจรแน่นอน แม้โจรอาจไม่สามารถเอารถไปได้ทั้งคัน แต่ล้อแมกซ์สุดหวงของคุณอาจหายไปในพริบตาก็ได้ จึงเป็นอีกที่หนึ่งที่ควรให้บริษัทรับติดตั้งกล้องวงจรปิดมาติดตั้งให้ โดยช่างจะเลือกกล้องแบบอินฟาเรดที่สามารถมองเห็นได้ในระยะ 10-20 เมตรในที่ที่ไม่มีแสง

carsteal

รั้วบ้านหรือตามแนวกำแพงของบ้าน โดยเลือกติดในบริเวณที่ลับตา อาจซ่อนไว้ในพุ่มไม้ หรือซ่อนไว้ที่ชายหลังคา เพื่อคอยตรวจสอบความเคลื่อนไหวและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งจุดนี้เพื่อนบ้านเรายังได้ผลพลอยได้จากกล้องวงจรปิดของเราอีกด้วย โดยจุดนี้บริษัทรับติดตั้งกล้องวงจรปิด มักจะแนะนำให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบธรรมดาก็เพียงพอ นั่นเพราะไฟหน้าบ้านของคุณส่องสว่างอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้กล้องแบบอินฟาเรด

cctv (1)

บริเวณจุดเสี่ยงที่ควร ติดตั้งกล้องวงจรปิด เหล่านี้เราอาจรู้แบบคร่าวๆ แต่ถ้าอยากรู้แบบเจาะลึกนั้นว่าจุดไหนควรติดตั้งบ้างนั้น อาจจำเป็นต้องให้บริษัทรับติดตั้งกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบลงพื้นที่จะดีกว่า

ความหมายของ 4K

4K คือ ความละเอียด หรือ Resolution หมายถึงจำนวนพิกเซลที่อยู่ในภาพบนหน้าจอโทรทัศน์ ภาพหนึ่งภาพที่ปรากฏบนหน้าจอโทรทัศน์ ประกอบด้วยจุดหลายจุดรวมกัน ปัจจุบันนี้หน้าจอทีวีจะมีจำนวนจุดตั้งแต่ 1 ล้านจุด (สำหรับโทรทัศน์ความละเอียด 720p) ไปจนถึง 8 ล้านจุด (สำหรับโทรทัศน์ความละเอียด 4K Ultra HD) ซึ่งเราไม่อาจมองเห็นความแตกต่างได้ด้วยตาเปล่า

 

 

ภาพแสดงความแตกต่างของความละเอียดแบบต่างๆ จากใหญ่สุดไปเล็กสุด: 4K Cinema ขนาดอัตราส่วนหน้าจอ 1.78:1 (ดำ); UHD (ขาว) 2K Cinema ขนาดอัตราส่วนหน้าจอ 1.78:1 (เขียว) Full HD 1080p (แดง) 720p (ฟ้า)

 

 

 

 

ความละเอียด 4K กับ Ultra HD (UHD) นั้นเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น Ultra HD Blu-ray และบริการ UHD Streaming ของทางช่อง Netflix, Amazon และเจ้าอื่นๆ หรือเปรียบเทียบได้กับหน้าจอฉายภาพยนตร์แบบดิจิตอลในปัจจุบัน มีความละเอียดในแนวนอนเท่ากับ 4,096 พิกเซล แต่ความละเอียดในแนวตั้งนั้นขึ้นอยู่กับอัตราส่วนหน้าจอการฉายภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ

 

 

ทำไมมี 4 K วิดีโอดีกว่า 1080P

มีอยู่หลายเหตุผลที่ทำไม 4K ได้ดึงก่อน 1080 P ในแง่ของคุณภาพของภาพอย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้เน้นหลักในปัจจัยรอบข้างคือสามารถแก้ไขรายละเอียดดีพิเศษ ความสามารถในการดูรายละเอียดนี้เมื่อนั่งใกล้กว่าเคยหน้าจอ และการผลิตจุดของมุมมอง ความสามารถในการปรับขนาดลงบันทึกไปปกติ HD และรูปแบบอื่น ๆ ในขณะที่รักษาความคมชัดสูง รายละเอียดสูงคุณภาพของต้นฉบับ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูอยู่)

มีเหตุผล 3 ด้านบนว่า วิดีโอ 4K trumps 1080P:

1. แก้ไขรายละเอียด

โทรทัศน์ความละเอียดสูงเป็นพิเศษที่ใช้เทคโนโลยี 4K จะสร้างซับซ้อนที่สุดของรายละเอียดในสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดความคมชัด ด้วยการดำรงอยู่ของควอดจำนวนพิกเซลโดย 1080p นี้ถือว่าเป็นประโยชน์มากที่สุดของวิดีโอ 4K มาตรฐาน

ตัวอย่างของที่นี้เห็นได้ชัดในภาพของผม หรือขน เช่นเดียว กับภาพอื่น ๆ ที่ประกอบด้วยรายละเอียดดีมากซึ่งอาจทำให้ปัญหา เช่น moire หรือเล็กน้อยอพยพในรูปแบบที่นอกเหนือจากความละเอียดสูงยิ่งยวด ได้ แน่นอนเมื่อดูใกล้ชิด เหล่านี้ยากที่จะแก้ไขรูปแบบปรากฏน้อยกว่าดาวฤกษ์ใดนอกเหนือจากจอ 4K

 

2. ใกล้ชิดดู

ด้วยการเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นความละเอียดที่ 4 K ได้เปรียบเทียบกับ 1080 P มันช่วยให้แสดงการวางตำแหน่งมากใกล้กับหน้าจอขนาดใหญ่ในขณะที่เพลิดเพลินกับภาพรวมชัดเจน ในความเป็นจริง ดีที่สุดแนะนำให้ดูระยะห่างสำหรับโทรทัศน์ 4K ได้สองใกล้ที่สุดเป็นทีวีปกติ เนื่องจาก 4K เป็นประสบการณ์ที่ดีสุดเมื่อนั่งใกล้ นั่งกลับเพิ่มเติมหมายความว่า คุณมักจะพบเป็นประโยชน์สูงสุด (แม้ว่ายังไม่ต้องสงสัยสามารถเพลิดเพลินกับความสุดยอดความคมชัด ไม่ห่าง)

ในระยะสั้น คุณสามารถนั่งสองครั้งใกล้เคียงกับหน้าจอ 4 K เทียบกับหน้าจอความละเอียดสูงที่มาตรฐาน โดยไม่มีความสามารถในการดู pixelation ซึ่งเกิดขึ้นด้วยความละเอียดต่ำกว่า

 

3. มาตราส่วนลง

บ่อยครั้ง การบันทึกจะต้องปรับให้ความละเอียดที่ต่ำลง ในกรณีที่ 4 K หนึ่งอาจต้อง downscale เพื่อผลผลิต 2 K สูงนิยาม ทดสอบได้แสดงว่า เมื่อเปรียบเทียบคุณภาพของวิดีโอสุดท้ายของ 4K วิดีโอที่ได้รับ downscaled ไป 2K เป็นรูปอย่างเห็นได้ชัดละเอียดกว่าอาจมีผลจากเดิม สร้างการบันทึกใน 2K

ประสบการณ์สำหรับผู้ที่ต้องการ และคาดหวังสมบูรณ์สูงสุดได้คุณภาพภาพเคลื่อนไหว 4K เป็น ticking กล่องทั้งหมด จากมุมมองของจุดผลิต และการดูมอง เทคโนโลยีความละเอียดสูงยิ่งยวดนี้จะไปเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราดูวิดีโอ

โทรทัศน์ยี่ห้อเช่นโซนี่ตอนนี้ขายโทรทัศน์ 4K ในราคาที่สามารถจ่ายชื่นชอบ และเนื้อหาวิดีโอมาก ที่นำ K ผลิตใน 4 นอกจากนี้ มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่กล้องระดับผู้บริโภคพร้อมความสามารถวิดีโอ 4K และแบบผสมผสานระดับ 1DC แคนนอนแล้วแล้วที่สำคัญ

ทั้งหมดนี้เพิ่มถึง 4K กลายเป็น เทคโนโลยีที่ไม่มีในมือของบริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ แต่สามารถอยู่ในมือของนักกีฬาวิดีโอทุกวันและคนที่รักเพียงเพื่อดูรูปภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบรายละเอียดสูงสุดที่เป็นไปได้

เมื่อคุณเข้าใจแน่นอนว่า 4K คุณสามารถเริ่มการชื่นชมความสามารถจริงและเป็นประโยชน์ที่ชัดเจนกว่า 1080p เป็นเทคโนโลยีวิดีโอแห่งอนาคต 4K กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นตามวัน และคนที่เข้าใจมากที่สุด และตระหนักถึงศักยภาพจะในยุคสมัยใหม่นี้น่าตื่นเต้นในวิดีโอดิจิตอล

พิกเซล (Pixel) คืออะไร เปรียบเทียบกล้อง 2,3,5 ล้านพิกเซล

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า พิกเซล (Pixel) ในสเปคมือถือหรือกล้องต่างๆว่า กล้องนั้นความละเอียด xx พิกเซล แล้วแต่ความละเอียด หลายคนคงอยากจะรู้ว่าพิกเซลมันคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร วันนี้เรามาทำความเข้่าใจเกี่ยวกับพิกเซลกันครับ

พิกเซล (Pixel) คืออะไร

คำว่า “พิกเซล” (pixel) มาจากคำว่า “พิกเจอร์” (picture) ที่แปลว่า รูปภาพ และ “เอเลเมนต์” (element) ที่แปลว่า องค์ประกอบ

จริงๆมันคือจุด ที่เป็นจุุดภาพที่แสดงบนหน้าจอ และเอามารวมกันให้เกิดเป็นภาพขึั้นมา แต่ละจุดจะมีสีที่แตกต่างกันไป ยิ่งละเอี่ยดมาก จะทำให้ภาพนั้นชัดเจนมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าความใหญ่ของภาพก็ใหญ่ขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน พิกเซลมากไม่ได้หมายความว่าภาพนั้นจะคมชัดเสมอไป แต่ภาพที่มีพิกเซลมาก จะสามารถ่ายภาพได้มีความละเอียดสูงได้

ความละเอียดของพิกเซล

เราคงจะเคยได้ยินคำว่า 5 ล้านพิกเซล หรืออื่นๆ ตัวเลขพวกนี้คืออัตราส่วนของความละเอียดของเม็ดสีต่างๆที่รวมกัน ในขนาดความกว้างและความสูง โดยสามารถจำแหน่งได้ดังต่อไปนี้

  • 2 ล้านพิกเซล จะเท่ากับ ความละเอียด 1600 x 1200
  • 3 ล้านพิกเซล จะเท่ากับ ความละเอียด 2048 x 1536
  • 4 ล้านพิกเซล จะเท่ากับ ความละเอียด 2272 x 1704
  • 5 ล้านพิกเซล จะเท่ากับ ความละเอียด 2560 x 1920

ค่าความละเอียดของภาพ คำนวนได้จาก H (แนวนอน) x P (แนวตั้ง ) การระบุความละเอียดของภาพขนาดนั้นๆ จะระบุค่าแนวตั้งเป็นหลักและลงท้ายด้วย P เช่น 720P 960P 1080P เราจึงทราบความละเอียดได้จากตัว P เราจึงมาศึกษากันต่อว่า ค่าของ P ต่างๆมาจากอะไรกันบ้าง

ภาพขนาดต่างๆเกิดจาก (จำนวนพิกเซลของค่าแนวนอน H x จำนวนพิกเซลค่าแนวตั้ง P)

720P คือ ภาพที่มีขนาด 1280H x 720P หรือขนาด 1ล้านพิกเซล
960P คือ ภาพที่มีขนาด 1280H x 960P หรือขนาด 1.3ล้านพิกเซล
1080P คือ ภาพที่มีขนาด 1920H x 1080P หรือขนาด 2ล้านพิกเซล
1536P คือ ภาพที่มีขนาด 2048H x 1536P หรือขนาด 3ล้านพิกเซล
1920P คือ ภาพที่มีขนาด 2560H x 1920P หรือขนาด 5ล้านพิกเซล

มาดูตัวอย่างภาพเปรียบเทียบความละเอียด 2,3,5 ล้านพิกเซล ของนายแคร์กันครับ

ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล

ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

7 เทคนิคถ่ายรูปลงเพจภาพถ่าย สำหรับผู้เริ่มต้น

การถ่ายภาพเป็นเรื่องที่สนุกเเละท้าทาย เพราะเป็นการนำเสนอ เเละการเล่าเรื่องราว โดยที่ไม่ต้องใช้การพูดหรือคำบรรยาย การใช้ภาพเล่าเรื่อง เเละสื่อสารกับผู้ชม เป็นวิธีการที่ช่างภาพต้องใช้ให้คล่องเเละคุ้นเคยกับวิธีการนำเสนอ เเละสำหรับผู้เริ่มต้น การถ่ายภาพเพื่อฝึกฝีมือ หรือเพื่อใช้เป็นภาพที่นำเสนอตัวเอง เลยต้องมีภาพที่คิดว่าเป็นภาพที่เเสดงความเป็นตัวเองมากที่สุด เเละเป็นภาพที่สื่อให้เห็นถึงเรื่องราวของภาพไปด้วย

เเต่จะถ่ายภาพอะไรดี หรือจะเอาภาพแบบไหนไปลงดี วันนี้เรามาลองดูกันเลยว่า จะหาภาพลงเพจเพื่อนำเสนอตัวเอง มีเทคนิคอะไรที่ต้องใช้บ้าง

7 เทคนิคถ่ายรูปลงเพจภาพถ่าย สำหรับผู้เริ่มต้น

1. ภาพถ่ายที่ใช้สีช่วยในการเล่าเรื่องราว รวมทั้งการใช้สีเพื่อการนำเสนอ อารมณ์และเรื่องราวของภาพ  

ถ่ายภาพโดยอาศัยสี ความเปรียบต่าง หรือความเข้ากันของสีในการเล่าเรื่อง เพราะสีหรือโทนที่ต่างกัน ก็ให้อารมณ์เละความรู้สึกที่ต่างกันด้วย มีเนื้อหาให้ลองศึกษาเรื่องสี ความสัมพันธ์ของสีในวงล้อสี ลองตามอ่านดู ก็จะช่วยให้งานภาพน่าสนใจขึ้น เเละทำให้ภาพถ่ายดูโดดเด่นขึ้น

2. ภาพถ่าย PORTRAIT ความรู้สึกของภาพ ความรู้สึกของตัวเเเบบ

กรถ่ายภาพบุคคลเป็น การถ่ายภาพที่ง่ายต่อการสื่อสารอารมณ์ เพราะตัวเเบบสามารถสื่อสารอารมณ์ผ่านสายตา และท่าทาง ซึ่งสื่อสารออกมาให้ผู้ชมเห็นได้ชัดเจน ทั้งอารมณ์สนุกสนาน เศร้า หรือตื่นเต้น ดังนั้นการเลือกภาพ Portrait เพื่อจะเอาไปลงเพจถ่ายภาพ หรือเป็นการนำเสนอผลงานของตัวเอง ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะ

3. ภาพถ่ายเเนวสตรีทที่จะช่วยให้เรื่องราวสื่อสารกับคนดูได้ชัดขึ้น 

การเดินออกไปนอกบ้าน หน้าปากซอย หรือระหว่างเดินทางกลับบ้านจากที่ทำงาน เรามีโอกาสพบเห็นผู้คน วิถีชีวิต เเละการเเสดงออกทางอารมณ์สีหน้า ผู้เริ่มต้นถ่ายภาพ อาจจะลองภาพถ่ายเเนวสตรีทก็ได้

เพราะบางจังหวะ บางภาพก็ช่วยให้เรื่องราวสื่อสารกับคนดูได้ชัดขึ้น ลองติดตามดูผลงานจากช่างภาพเเนวนี้ เพื่อศึกษามุมมองการถ่ายภาพเเละวิธีการเล่าเรื่องด้วยภาพจากพวกเค้า ก็จะทำให้งานของเราพัฒนาให้ดูสวยขึ้น เเละสื่อสารได้ชัดขึ้นด้วย

4. ถ่ายภาพด้วยเทคนิคที่ไม่เคยทำมาก่อน 

ถ่ายภาพด้วยเทคนิคที่ไม่เคยทำ หรือลองทำตามวิดีโอสอนถ่ายภาพเเบบครีเอทีพ ก็จะได้ภาพที่ดูน่าสนใจ เเละได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำด้วย ทั้งสนุก ได้พัฒนาฝีมือการถ่ายภาพ และยังได้ภาพเอาไปลงเพจภาพถ่ายได้ด้วยนะ

5. เดินทางไปในที่ที่ไม่เคยไป

จัดกระเป๋าเดินทาง เเละออกไปในที่ที่ยังไม่เคยไปดูนะ จะได้ภาพถ่ายกลับมาเยอะเลยล่ะ เพราะการไปในที่ที่ไม่เคยเห็นจะมีความตื่นเต้นพิเศษ ที่เมื่อเจออะไรที่ไม่คุ้นตาจะรู้สึกว่าถ่ายภาพสนุกขึ้น มุมที่ไม่เคยเห็น ถนนที่ไม่เคยเดิน บ้านเรือนที่ดูเเปลกตา ไม่คุ้นเคย ถ้ามีโอกาสลองทำดูได้

6. คุยกับช่างภาพ ขอคำเเนะนำ ขอคำติชมจากเพื่อน ๆ 

การพูดคุยกันผู้คนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ก็เป็นความสนุกอย่างนึงนะ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุยถึงปัญหาที่เจอ หรือเรื่องที่ทำเเล้วมีความสุขคล้าย ๆ กัน ดังนั้นการมีกลุ่มช่างภาพที่เอาไว้คุยกันก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ที่น่าจะลองหาไว้บ้าง นำภาพไปให้เพื่อนในกลุ่มดู พูดคุยขอคำเเนะนำ และลองขอคำติชม ก็จะช่วยให้การถ่ายภาพของเราพัฒนาขึ้นได้ด้วย

7.  บางครั้งการเดินทางออกไปโดยไม่คิดว่าจะถ่ายรูปอะไร ก็ทำให้ได้รูปดี ๆ สวย ๆกลับมาได้นะ 

สมองของมนุษย์ต้องการความสมบูรณ์เเบบ จึงวางแผน สร้างรูปเเบบเพื่อให้สิ่งที่ออกมาสมบูรณ์ที่สุด ก่อนออกไปถ่ายภาพเราจึงมีการวางเเผน เเละรู้ว่าจะต้องถ่ายภาพอะไรที่ไหน เพื่อให้ออกมาอย่างที่ต้องการ

เเต่ในบางครั้ง ก็เป็นเรื่องที่สร้างความประหลาดใจได้ คือการออกไปถ่ายภาพโดยที่ไม่คิดว่าจะต้องว่าจะถ่ายภาพอะไร เหมือนกับการออกไปเพื่อตามหาเเรงบันดาลใจ เเล้วก็ได้ภาพท่ีสวยงดงามเกินคาดกลับมา

Fujifilm X Webcam เสียบสาย USB ต่อกล้อง เข้าคอม ใช้เป็นเว็บแคมได้เลย

ข่าวดีสำหรับคนที่ต้อง Work From Home และต้องคุย Video Call บ่อยๆ เพราะ Fujifilm ได้ปล่อยซอร์ฟแวร์ใหม่ที่จะเปลี่ยนกล้อง mirrorless ให้เป็น webcam คุณภาพสูง

ผู้ที่ใช้งานกล้อง mirrorless ของ Fujifilm ซีรี่ส์ X และซีรี่ส์ GFX สามารถใช้กล้องของคุณเป็นกล้อง webcam ได้ โดยซอร์ฟแวร์ตัวนั้นชื่อว่า Fujifilm X Webcam ทำงานผ่านการเชื่อมต่อ USB เข้ากับคอมพิวเตอร์ แน่นอนว่ามันช่วยเรื่องคุณภาพของภาพได้มาก ด้วยความละเอียดของภาพจากกล้องที่สูงกว่ากล้อง webcam ที่ติดมากับคอมพิวเตอร์

Fujifilm X Webcam

กล้องที่ใช้งาน Fujifilm X Webcam มีดังนี้

  • กล้อง GFX ทุกรุ่น
  • กล้องรุ่น X-H1, X-Pro2, X-Pro3, X-T2, X-T3 และ X-T4

ดาวน์โหลดซอร์ฟแวร์ได้ฟรี  แต่ใช้งานได้แค่คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows อย่างเดียวก่อน สำหรับผู้ใช้งาน Mac ต้องรอกันไปก่อน

กล้องเว็บแคม OBSBOT Tiny สั่งการด้วย AI

กล้องเว็บแคมเป็นกล้องที่เคยได้รับความนิยมเมื่อนานมาแล้ว แต่เมื่อเปลี่ยนผ่านมาสู่ยุคที่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คมีกล้องในตัว กล้องเว็บแคม จึงเป็นอุปกรณ์ที่คนตามหากันน้อยลง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ผู้คนต้องเว้นระยะห่าง การเรียนการสอนที่โรงเรียนต่างๆ ต้องถูกปิดลงและเน้นการเรียนการสอนแบบออนไลน์ การทำงานก็เปลี่ยนเป็นการ work from home หรือทำงานที่บ้านและใช้การประชุมผ่านวีดีโอคอลแทนการเดินทางไปที่ออฟฟิศ กล้องเว็บแคม จึงกลับมาอีกครั้งแต่มีการพัฒนาเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ทั้งเรื่องของเทคโนโลยี ความคมชัดและฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ

ซึ่งล่าสุดเราได้ไปเจอกับอีกหนึ่งสุดยอดกล้องเว็บแคมในเว็บไซต์เพื่อการระดมทุน สิ่งนี้คือ OBSBOT Tiny เป็นกล้องเว็บแคม ที่สั่งการด้วย AI ปัญญาประดิษฐ์และมีความสามารถในการเคลื่อนที่ตามการเคลื่อนไหวแล้วยังซูมเข้าออกได้โดยอัตโนมัติ

คุณสมบัติของ OBSBOT Tiny

  • AI tracking จับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ
  • gesture control ควบคุมการใช้งานผ่านท่าทาง
  • 2 Axis Gimbal ป้องกันการสั่นไหว ความละเอียด
  • 1080p full HD 60fps

AI tracking จะคอยจับการเคลื่อนไหวเพื่อแพนกล้องไปในทิศทางที่ต้องการ และอยู่ในเฟรมที่เหมาะสม ตัดปัญหาเรื่องของการต้องคอยควบคุมกล้องเมื่อเคลื่อนไหวไปในทิศทางต่างๆ

gesture control ใช้สัญลักษณ์ท่าทางเพื่อการควบคุม โดยสัญลักษณ์ 5 นิ้วควบคุมเพื่อการเลือกเป้าหมายหรือยกเลิกเป้าหมาย สัญลักษณ์นิ้วโป้งและนิ้วชี้กางออกคือการซูมเข้าและซูมออก

นอกจากนี้ยังมี gimbal ที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวของกล้องเป็นไปอย่างลื่นไหลความสามารถของการ Tilt ภาพขึ้นลงสูงสุดที่ 45 องศา และการแพนภาพเพื่อหมุนไปรอบๆได้ 150 องศา

ในตัวกล้องเว็บแคมยังมีไมค์บิวท์อินซึ่งสามารถตัดเสียงรบกวนรอบด้านได้อย่างอัจฉริยะ แล้วยังสามารถติดตั้งกล้อง ได้หลากหลายตามต้องการทั้งบนหน้าจอ PC โน้ตบุ๊ก หรือแม้กระทั่งวางตั้งกับขาตั้งใช้งานได้สะดวก

ส่วนประกอบรอบๆตัวเครื่อง

และเมื่อลองเปรียบเทียบกับกล้อง webcam ตัวอื่นๆ

โดย OBSBOT Tiny อยู่ระหว่างการระดมทุนในเว็บไซต์ของ indiegogo ซึ่งยอดระดมทุนในปัจจุบันเกินเป้าไปแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนของการผลิต สำหรับคนที่สนใจ ถ้าซื้อในช่วงของ super early bird ราคาจะอยู่ที่ 3,064 บาท ในขณะที่ราคาขายจริงจะอยู่ที่ 6,161 บาท ลดกันไปสูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์

กล้องฟิล์ม คุณค่าของความช้าในยุคแห่งความเร็ว

ทุกวันนี้การสื่อสารรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ เราสามารถถ่ายทอด บอกเล่า และบันทึกภาพต่างๆ ที่นำเสนอเหตุการณ์ได้แบบเรียลไทม์ ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กแทบวินาทีต่อวินาที ใครเผลอวางมือถือหรือช้าไปนิดเดียวถือว่าตกเทรนด์ แต่ทว่าทุกยุคทุกสมัย เมื่อเกิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากจนเกินไป ก็มักจะมีการสวนกระแส หรือการกระทำเชิงต่อต้านขึ้นมา

เมื่อโลกหมุนเร็วมากเกินไป บางคนก็อยากใช้ชีวิตให้ช้าลง  
หนึ่งในนั้นคงเป็นกระบวนการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม เพราะกว่าจะได้รูปภาพสักรูปหนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เริ่มด้วยกล้องแอนนะล็อกปรับตั้งค่าเอง เลือกฟิล์มที่ชอบจับใส่ตัวกล้อง เลือกมุมและโมเมนต์ที่จะถ่าย วัดแสง ปรับองค์ประกอบอื่นๆ และรอให้ได้จังหวะที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุด นั่นเพราะคุณสามารถถ่ายได้แค่ 36 รูป อีกทั้งยังเช็กรูปไม่ได้ด้วย แล้วจึงกดชัตเตอร์ ทำแบบนี้ครบ 36 ครั้ง ได้ 36 รูป ต่อฟิล์ม 1 ม้วน จากนั้นนำไปส่งร้านล้างรูป รอล้าง สแกน หรืออัดภาพ ก็จะได้เห็นรูปที่เราถ่าย ดูเหมือนวิธีการเหล่านี้จะง่ายนิดเดียว แต่ถ้าเพียงใช้มือถือถ่ายรูป ใส่ฟิลเตอร์ แต่งรูป แล้วลงไอจี ทุกอย่างกลับเสร็จภายใน 2 นาที เรียกได้ว่าง่ายกว่าการถ่ายภาพด้วยฟิล์มเป็นไหนๆ

คุณเคยมีอาการใช้มือถือถ่ายรูปสิ่งหนึ่งซ้ำๆ กันหลายครั้งเพื่อความชัวร์ไหม
ในยุคที่การถ่ายรูปไม่มีขีดจำกัด เราสามารถถ่ายรูปซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะถ่ายกี่รูปก็ได้ จนกว่าเม็มโมรีการ์ดจะเต็ม นั่นทำให้กระบวนการคิดก่อนถ่ายภาพๆ หนึ่งนั้นลดทอนลงไป ถ้าถ่ายพลาดก็ถ่ายใหม่ได้ ไม่ต้องคิดเยอะ ถ้าเปรียบการบันทึกภาพกับสมองมนุษย์ ก็คงเหมือนเป็นความทรงจำ บางครั้งถ้าเรายิ่งเก็บสิ่งต่างๆ ไว้เป็นความทรงจำมากๆ โดยไม่ได้คิดให้มากก่อนจะเก็บไว้ ก็อาจทำให้เกิดสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “ความทรงจำที่รกสมอง” แต่นั่นไม่ได้แปลว่าการถ่ายรูปด้วยมือถือเป็นเรื่องผิด แต่การถ่ายภาพด้วยฟิล์มที่แต่ละภาพ แต่ละความทรงจำจะถูกคัดกรองด้วยสมอง สายตา และการใช้สมาธิ หลายคนคงรู้สึกว่าการถ่ายภาพด้วยฟิล์มนั้นตอบโจทย์คุณค่าทางจิตใจมากกว่า เพราะใน 36 ภาพของความทรงจำนั้น ผู้ถ่ายคงจะจดจำแทบทุกเหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นๆ ของความทรงจำ และนั่นคงเป็นหนึ่งในคำตอบว่าทำไมผู้คนถึงหวนกลับมาถ่ายกล้องฟิล์มกัน

©Jakob Owens/Unsplash

เสน่ห์ของรูปภาพจากฟิล์มที่แตกต่างจากกล้องดิจิทัล
สิ่งที่ทำให้หลายคนหลงใหลการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม ไม่ใช่เพียงการปรับตั้งค่าแบบแอนนะล็อก หรือการรอคอยให้ถ่ายครบทั้ง 36 รูป แต่ยังรวมถึงฟิลเตอร์ที่ต่อให้ใช้โปรแกรม Lightroom หรือโปรแกรมแต่งภาพระดับเทพ ก็ไม่สามารถให้ความรู้สึกเหมือนกับการถ่ายภาพฟิล์มได้ อีกทั้งโทนสีที่เกิดจากการเลือกใช้ฟิล์ม หรือเกรน (film grain) ที่เกิดบนภาพที่อาจไม่ได้คมชัดแบบภาพจากดิจิทัล ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากได้ภาพโทนสีจัดจ้าน โทนสีเขียว โทนสีแดง ก็จะมีฟิล์มรุ่นที่ให้โทนดังกล่าวบนภาพของคุณได้ ฟิล์มบางรุ่นจะให้เกรนที่เนียน เหมาะกับการถ่ายคน หรือบางคนอาจชอบเกรนหยาบๆ ก็แล้วแต่จะเลือกใช้กัน ใครอยากทดลองใช้ฟิล์มที่หมดอายุถ่าย ก็จะได้ผลลัพธ์บนรูปภาพที่แตกต่างออกไปจากฟิล์มปกติ ถ้าอยากได้สีแปลกๆ แหวกแนว ก็อาจใช้การล้างฟิล์มแบบ Cross Process หรือแม้กระทั่งรูปภาพบางรูปที่เกิดจากความบังเอิญ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพที่เกิดจากการวัดแสงผิด แสงรั่ว รูปที่ถ่ายจากต้นฟิล์ม ก็อาจทำให้ได้ภาพที่สวยและแตกต่างไปอีกแบบ นั่นจึงทำให้การถ่ายกล้องฟิล์มมีความสนุก ได้ทดลอง และให้ภาพที่มีความรู้สึกแตกต่างจากภาพที่ถ่ายโดยกล้องดิจิทัลไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อการถ่ายรูปไม่ใช่แค่การถ่ายรูป แต่กลายเป็นการแสดงไลฟ์สไตล์
กล้องฟิล์มที่คนนิยมใช้กันส่วนใหญ่มักเป็นกล้องโบราณที่ไม่ได้มีการผลิตแล้ว แต่หาซื้อกันได้เป็นกล้องสภาพมือสอง ด้วยรูปทรงของกล้องที่ให้ความรู้สึกโบราณ วินเทจ ทำให้กล้องที่ถูกสะพายออกไปเที่ยวข้างนอกนั้น กลายเป็นหนึ่งในแอ็กเซสเซอรี่ที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ในการแต่งตัวของวัยรุ่นได้ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่เกิดไม่ทันยุคที่คนยังใช้กล้องฟิล์มเป็นหลัก บางคนออกไปนั่งร้านกาแฟ หยิบกล้องฟิล์มมาวางกับแก้วกาแฟและหนังสือ แล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่าย อัพลงโซเชียล แค่นี้ก็ได้รูปชิคๆ แล้ว ส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์และกระแสกล้องฟิล์มต่างๆ เช่น การเกิดแฮชแท็ก #พ่อบ้านไลก้าขึ้นมา ที่มาจากกลุ่มที่นิยมใช้กล้องยี่ห้อ Leica นั่นเอง นับเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่กล้องรุ่นต่างๆ ที่อาจจะเคยตกรุ่นหรือหมดคุณค่าไปแล้วในอดีต

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นกิจกรรมบ่งบอกไลฟ์สไตล์ก็คือ กระบวนการล้างฟิล์มด้วยตนเอง กลุ่มคนที่หลงใหลกล้องฟิล์มสมัยนี้เริ่มนิยมล้างฟิล์มกันด้วยตนเองมากขึ้น เพราะเมื่อเราถ่ายรูปมาได้แล้ว การจบกระบวนทั้งหมดด้วยตัวเองคงเป็นความภูมิใจไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ฝึกสมาธิได้เป็นอย่างมาก ในปัจจุบันเริ่มมีสถานที่ที่เป็นแหล่งรวมกล้องฟิล์ม ได้มีการเปิดคอร์สเรียนสำหรับการล้างฟิล์มทั้งการล้างด้วยตนเองที่บ้าน หรือล้างในห้องมืดแบบสมัยก่อน เช่น AIR Academy และ Husband and Wife Art Farm อีกทั้งยังมีห้องมืดสำหรับให้เช่าแก่บุคคลที่สนใจเปิดให้ใช้บริการมากขึ้น

ในกระบวนถ่ายภาพตั้งแต่เริ่มจากถ่ายภาพ จนถึงกระบวนการล้างฟิล์มนั้นไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ต้องอาศัยความอดทน ใช้ระยะเวลา ความประณีต และใช้สมาธิ  สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยในกระบวนการถ่ายภาพในมือถือ หรือดิจิทัล อีกทั้งยังสร้างคุณค่าทางจิตใจ เพราะกว่าจะได้มาในแต่ละรูปนั้นต้องเกิดจากความตั้งใจ เสมือนการสร้างความทรงจำอันมีค่าที่สะท้อนให้เห็นว่าสิ่งใดที่เราได้มาง่ายๆ เราก็มักจะลืมมันง่าย แต่สิ่งใดที่เราได้มายาก เราย่อมจะจดจำได้ตลอดไป

5 อันดับกล้องฟิล์ม ถูกและดี

คอนเทนต์พลีชีพ พลีเงินในกระเป๋า เพราะเราอยากบอกทุกคนว่า…กล้องฟิล์มถูกและดี มีอยู่จริง!
กว่าจะไปรีดเอาความจริงมาได้…เหนื่อยแทบแย่! 
ตามมาดู 5 อันดับกล้องฟิล์มถูกและดี ที่ช่างภาพ แนะนำ!!!

……………………………………………………..

#1 Nikon 35Ti

กล้องฟิล์มคอมแพ็คตัวท้อปของ Nikon ทำจากวัสดุไทเทเนี่ยม คุณภาพเทียบได้กับ Contax T2, Leica Minilux ในราคาที่ต่ำกว่าเท่าตัว จุดเด่นของมันคือจอ Analog ด้านบน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่หลายคนเทใจให้ ดูย้อนยุค แต่ทำงานในระบบปกติ มาพร้อมเลนส์ระยะ 35 mm รูรับแสง F/2.8 ละลายหลังดั่งใจ ชัดคม และให้ภาพสีสดตามแบบฉบับ Nikon





#2 Canon Autoboy 3

กล้องฟิล์มสแนปคอมแพ็ค มาพร้อมเลนส์ระยะ 38 mm รูรับแสงกว้าง F/2.8 หน้าชัดหลังเบลอละลาย ภาพที่ถ่ายออกมาคล้ายกับ Contax T2 เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดใช้กล้องฟิล์มด้วยระบบ Auto ถ่ายง่ายด้วย Auto Focus ถ้าแสงน้อยแฟลชจะติดโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่ต้องการใช้ก็สามารถปิดได้ กล้องจะเลื่อนฟิล์มให้เอง ตัวเล็กและพกพาสะดวก




#3 Canon Autoboy S Panorama

นำมาด้วย Speed Shutter ที่เร็วสุดถึง 1/1200 ไว่กว่ากล้องคอมแพ็คและกล้อง SLR ในหลายๆ รุ่น นอกจากนี้ยังสามารถเลือก Caption ที่นอกเหนือจากการบอกวันที่ธรรมดาได้อีกด้วย มีระบบวัดแสงเฉพาะ ทำให้ถ่ายย้อนแสงได้ง่าย แม่นยำ แฟลชไม่เว่อ Focus ต่อเนื่องอย่างรวดเร็วทันใจ โดดเด่นด้วยมุมมองแบบ Panorama ด้วยเลนส์ 38-115 ระยะครอบคลุม บวกกับรูรับแสงที่กว้างถึง F/3.6 เท่ากับเลนส์ฟิกซ์ หรือ 38 mm F/3.6 เลยทีเดียว





#4 Pentax 105 Super

กล้องฟิล์มคอมแพ็คสแนป ตัวนี้ก็ถ่ายง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ มีระบบออโต้ถ้าแสงไม่พอแฟลชจะขึ้นอัตโนมัติ และปิด-เปิดได้ตามต้องการ เลนส์ 38-105 mm รูรับแสง F/4-7.8 โดดเด่นด้วยชัตเตอร์ B ม่านชัตเตอร์จะเปิดรับแสง ทำให้ได้ภาพไฟวิ่งเป็นเส้นสวยๆ ซึ่งหาได้ยากในคอมแพ็คปกติ มาพร้อมโหมด Macro โหมดถ่ายภาพซ้อน Double Exposure และสามารถตั้งเวลาถ่ายได้

 





#5 Olympus OZ 105R

  กล้องฟิล์มคอมแพ็คสแนปจากค่าย Olympus เป็นกล้อง Point and Shoot มาในขนาดกะทัดรัด มาพร้อมเลนส์ Zoom ขนาด 38-105 mm รูรับแสง F/4.5-F/8.5 มีระบบแฟลชเปิดปิดได้ แฟลชไม่เว่อร์ ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้อย่างคมชัด สวยงาม ปรับมุมมองภาพแบบ Panorama และตั้งเวลาถ่ายได้ ใช้งานง่ายด้วยระบบที่ไม่ซับซ้อน




กล้องวงจรปิดไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung

กล้องวงจรปิดไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung คมชัดถึง 2 ล้านพิกเซล

กล้องวงจรปิดไร้สาย SMARTCAM SAMSUNG สามารถแจ้งเตือนผ่านมือถือทุกระบบปฏิบัติการทั้ง Android และ IOS ภาพคมชัดถึง 2 ล้านพิกเซล IR Day/Night สามารถหมุนรอบได้ 350° ขึ้นลง 150° บันทึกไฟล์ กล้องวงจรปิด ในตัวผ่าน SD Card 128 GB แถมยังมีไมค์ในตัวกล้องวงจรปิดสมาร์ทแคมแบรนด์ ซัมซุง

ทางด้านบริษัท Samsung ได้คำนึงเห็นถึงความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินภายในที่พัก ไม่ว่าจะเป็นหอพัก, คอนโด, ทาวน์เฮ้าส์, บ้านเดี่ยวหรือตึกสำนักงาน รวมถึงทางซัมซุงได้มองเห็นความต้องการของผู้บริโภคกล้องวงจรปิด ที่มีทางแบรนด์หลากหลายจากทางจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ทำกล้องวงจรปิดแบบ IP Camera Smart CCTV

ซัมซุงเลยเริ่มผลิตกล้องวงจรปิดไร้สาย IP Smart Camera Samsung กล้องอัจฉริยะรุ่นใหม่ SNH-V6410PN
เพื่อตอบโจทย์กับกลุ่มผู้บริโภคลูกค้าที่เน้นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั้งภายในบ้านหรือคอนโด รวมถึงตึกสำนักงาน โดยตัวกล้องไอพีรุ่นนี้สามารถแจ้งเตือน หรือ notification ผ่านแอพมือถือทันทีเมื่อมีผู้บุกรุกหรือความเคลื่อนไหวภายในบ้านหรือที่พัก

ทางซัมซุงได้ให้ความคมชัดสูงมาถึง 2 ล้านพิกเซล แถมยังมีระบบ Auto Tracking หมุนตามสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหว หรือ ใช้สนทนากับคนที่อยู่ที่บ้านหรือสำนักงานได้ และยังสามารถทำงานในที่มืดได้สบาย โดยหากสถาพแวดล้อมที่มืดหรือไม่มีแสง ตัวกล้องจะเปิดโหมด Night Vision ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ลักษณะตัวกล้องวงจรปิด Smart Camera หรือที่เรียกกันบ่อยๆคือ IP Camera มีขนาดกะทัดรัด สามารถนำไปวางในจุดที่ต้องการได้ทันที โดยตัว กล้องวงจรปิดไร้สาย Samsung SmartCam SNH-V6410PN ให้มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะที่สุดอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติต่างๆมากมายดังต่อไปนี้

คุณสมบัติ

  • มี Microphone ในตัวสามารถพูดคุยผ่านกล้องวงจรปิดได้ 2-Way Audio
  • ความละเอียดสูงถึง 2 ล้านพิกเซลที่ให้ภาพระดับ Full HD
  • ได้รับรางวัลอันดับโลก Red Dot Design Award Winner เป็นเครื่องหมายการันตี
  • สามารถปรับมุมมองของภาพแบบแนวนอน 350 องศา และแนวตั้ง 150 องศา เพื่อสามารถ Control กล้องไปยังตำแหน่งที่ต้องการดูภาพ
  • มีฟังก์ชั่นการดูภาพแบบย้อนแสง Wide Dynamic Range ทำภาพที่ได้มีคุณภาพ ในกรณีที่มีแสงมากหรือน้อยเกินไป
  • ความเร็วภาพในการแสดงผล 1080P ที่ 30fps แบบ H.264 ได้
  • การสื่อสารไร้สายมาตรฐาน Wifi 802.11 b/g/n (Single Band) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก
  • ทำงานได้ทั้งในที่มืดสนิท สามารถมองเห็นภาพแบบ Black & White ด้วย IR LED
  • มีระบบติดตาม Auto Tracking ติดตามสิ่งที่เคลื่อนไหว
  • รองรับการบันทึกในตัวผ่าน SD Card สูงสุดถึง 128 GB